วันนี้ (22 ก.ยง 2559) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ เกิดเหตุตำรวจอเมริกันยิงชายผิวสี 2 คน ในรัฐโอคลาโฮมาและรัฐนอร์ทแคโรไลนา จนเป็นเหตุให้ประเด็นเหยียดสีผิวในสหรัฐฯ กลายเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง จนนักพิทักษ์สิทธิมนุษยชนจำนวนมากออกประท้วงและประณามการกระทำดังกล่าว
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เมืองทัลซา ในรัฐโอคลาโฮมา จากการเปิดเผยคลิปวิดีโอตำรวจยิง นายเทอร์เรนช์ ครัชท์เชอร์ ชายผิวสีอายุ 40 ปี จนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดขณะที่รถของนายครัชท์เชอร์จอดเสียบนถนนและถูกตำรวจเข้าตรวจค้น จากภาพพบว่านายครัชท์เชอร์ชูมือโดยไม่มีอาวุธ แต่กลับถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ครอบครัวของนายครัชท์เชอร์ และเพื่อนบ้านจำนวนมาก รวมตัวประท้วงที่หน้าสำนักงานตำรวจเมืองทัลซา
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ระบุว่า จะสืบสวนเหตุการณ์และให้ความเป็นธรรม เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ด้าน หัวหน้าตำรวจเมืองทัลซา แถลงว่า จะสืบสวนคดีนี้ด้วยความยุติธรรมและการเผยแพร่คลิปวิดีโอแก่สาธารณะชน เพื่อต้องการให้เกิดความโปร่งใส โดยเบื้องต้นพบว่าไม่พบอาวุธใดๆ ในรถและตัวนายครัชท์เชอร์
ขณะที่ นายอัล ชาร์ปตัน นักสิทธิมนุษยชนชื่อดังของสหรัฐฯ จัดแถลงพร้อมครอบครัวของนายครัชท์เชอร์ เรียกร้องให้สหรัฐฯ มีวันยุติธรรมแห่งชาติ และร่วมกันสวดภาวนาเพื่อส่งดวงวิญญานของนายครัชท์เชอร์ ก่อนจัดชุมนุมใหญ่เพื่อประท้วงการกระทำของตำรวจที่แสดงถึงการเหยียดสีผิว
ทั้งนี้ ครอบครัวของนายครัชท์เชอร์ กล่าววา การกระทำของตำรวจเป็นอาชญากรรมและจะหาทางดำเนินคดีตำรวจหญิงที่ยิงปืนสังหารนายครัชท์เชอร์ โดยอ้างว่าป้องกันตัว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานต่ออีกว่า อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นในรัฐนอร์ทแคโรไลนา นายคีท ลามอนต์ สก็อตต์ ชายอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน วัย 43 ปีเสียชีวิต ถูกตำรวจยิงเสียชีวิตขณะค้นหาตัวผู้ต้องสงสัยตามหมายจับในอพาร์ตเมนต์ เมืองชาร์ล็อต
ตำรวจรัฐนอร์ทแคโรไลนา อ้างว่า ที่ต้องวิสามัญ เนื่องจาก นายสก็อตต์เดินลงมาจากรถพร้อมอาวุธปืนด้วยท่าทีคุกคาม
ต่างจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่านายสก็อตต์ถูกยิงเสียชีวิตทั้ง ๆ ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของตำรวจทุกอย่าง
การเสียชีวิตของนายสก็อตต์จุดชนวนให้เกิดการประท้วงรุนแรงในเมืองชาร์ล็อต จนตำรวจต้องใช้กำลังสลายการประท้วง ส่งผลให้มีรับบาดเจ็บอย่างน้อย 12 คน