วันนี้ (22 ก.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันคนไทยร้อยะ 90 ล้วนมีหนี้สิน ขณะที่บางคนต้องแบกภาระดอกเบี้ยที่ทวีคูณมากกว่าเงินต้น ยกตัวอย่างเช่น
นาย ก. มีเงินเดือน 25,000 บาท ต้องผ่อนคอนโดเดือนละ 10,000 บาท แต่อัตราดอกเบี้ยที่สูงทำให้เงินต้นที่จ่ายไปเหลือแค่ 3,000 บาท นอกนั้น อีก 7,000 บาท คือดอกเบี้ย ซึ่งตัดโอกาสที่จะนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นที่จำเป็น หรือเก็บสะสมไปปลดหนี้บ้าน
ฉะนั้น เพื่อให้ชีวิตพ้นจากการเป็นหนี้ได้เร็วขึ้น กลุ่มสตาร์ทอัพประเภท ไฟแนนซ์เชียล เทคโนโลยี จึงคิดค้นนวัตกรรมช่วยบริหารจัดการและลดหนี้คนไทย ผ่านเว็บไซต์รีฟินน์ดอทคอม (www.refinn.com) ที่เพียงแค่ผู้ใช้บริการกรอกข้อมูล 3 ข้อ คือ 1.ยอดหนี้คงเหลือ 2.จำนวนเงินที่สามารถใช้ผ่อนหนี้ได้แต่ละเดือน และ 3.ระยะเวลาที่เหลือผ่อน
จากนั้น ระบบจะคำนวณโปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร และแสดงยอดเงินผ่อนจากต่ำไปสูง โดยยังระบุด้วยว่า หากเลือกผ่อนกับธนาคารไหน จะต้องผ่อนเท่าไร และประหยัดเงินได้กี่ล้านบาท เพราะหากผ่อนชำระนานหลายปีโดยไม่เจรจาลดดอกเบี้ย หรือ รีไฟแนนซ์ อาจต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินอีกเท่าตัวของราคาบ้าน เป็นต้น
นอกจากช่วยผู้ใช้พิจารณาโปรโมชั่นแต่ละธนาคารแล้ว ยังให้การบริการในเรื่องการกรอกข้อมูล และมีแมสเซนเจอร์นำเอกสารไปส่งทางธนาคาร
ส่วนเรื่องความปลอดภัยของระบบ ทีมเว็บไซต์รีฟินน์ระบุว่า ใช้ระบบเข้ารหัสแบบ 256 บิต มีความปลอดภัยมาตรฐาน ISO 27001 เช่นเดียวกับมาตรฐานของธนาคารระดับโลก เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินระดับประเทศ เช่น กรณ์ จาติกวาณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นิลทิตา เลิศเรืองศุภกุล และ เพียรไกร อัศวโภคา นักวิเคราะห์ทางการเงินระดับประเทศ คอยให้คำปรึกษาและคิดคำนวณ ที่ระบุว่า หากประชาชนบริหารภาระทางการเงินอย่างดี สามารถเปลี่ยนหนี้ให้เป็นเงินออม รวมถึงการรีไฟแนนซ์ที่ดีจะช่วยลดระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ได้เป็น 10 ปี ทีเดียว
เว็บไซต์รีฟินน์ดอทคอมเปิดให้บริการแล้ว โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นในส่วนของการจัดสรรหนี้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ โดยในอนาคตจะขยายไปสู่การให้บริการจัดสรรหนี้รถยนต์ และบัตรเครดิต