วันนี้ (26 ก.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า ไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ให้ความเป็นธรรมกับทุกคดีเท่าเทียมกัน โดยยกกรณีบริษัทบุตรชายคนโตของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่เข้าไปประมูลรับเหมาก่อสร้างงานในสังกัดกองทัพภาคที่ 3 มาเทียบเคียง โดยรัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทุกคน โดยไม่มีการเลือกที่รักมักที่ชัง ซึ่งกรณีของ พล.อ.ปรีชา เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มอบอำนาจให้นายนพดล หลาวทอง ทนายความยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการออกคำสั่งของหัวหน้า คสช.ที่ 56/2559 ผ่านศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ เห็นว่าอาจไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการใช้คำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดยไม่ต้องดำเนินคดีฟ้องต่อศาลแพ่ง แต่ใช้วิธีการออกคำสั่งทางปกครองให้ชดใช้ทันที และหากไม่ชดใช้ก็จะใช้มาตรการยึดทรัพย์ โดยให้กรมบังคับคดีเข้าดำเนินการเป็นกรณีพิเศษ แทนการดำเนินการตามปกติ
นายนพดล กล่าวว่า การออกคำสั่งมีสภาพบังคับ ก่อนการตรวจสอบข้อเท็จจริงในโครงการแล้วเสร็จ จึงอาจเป็นการชี้นำผลแห่งคดีให้เป็นไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง และไม่มีความจำเป็นในการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เพราะมีกฎหมายปกติบังคับใช้อยู่แล้ว กรณีนี้จึงเป็นการเลือกปฏิบัติเฉพาะกรณี ไม่เป็นไปตามขั้นตอนปกติ เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของกรมบังคับคดีที่เป็นอำนาจของศาลยุติธรรม ขณะเดียวกัน เห็นว่าการออกคำสั่งตามมาตรา 44 ขัดต่อรัฐธรรมนูญชั่วคราว เนื่องจากเกินขอบเขตอำนาจที่กำหนดไว้