วันนี้ (28 ก.ย.2559) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ระบุว่า เตรียมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือ หลังได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ครม.ให้ติดตามเพื่อเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวอีกร้อยละ 80 หรือ กว่า 142,000 ล้านบาท หลังหักจากส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบกว่า 35,000 ล้านบาท เบื้องต้น ยังไม่มีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ระบุว่า ยังมีผู้เกี่ยวข้องและต้องรับผิดชอบอีก 2 กลุ่ม คือ ฝ่ายปฏิบัติ ซึ่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ตั้งเป็นคดีแล้ว 853 คดี ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์การตลาดเพื่อการเกษตร ,องค์การคลังสินค้า , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และเอกชน โดยเฉพาะโรงสี ที่แจ้งว่า มีข้าวในโกดัง ทั้งที่ไม่มี ซึ่งเป็นข้อมูลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐที่มีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ครอบคลุม 33 จังหวัด โดย ป.ป.ท.ระบุว่า จะสามารถส่งฟ้องต่อศาลได้ภายใน 6 เดือน และเรียกรับผิดทางละเมิดต่อไป ซึ่งจะเริ่มนับอายุความตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาของคนกลุ่มนี้รับรู้ถึงการกระทำผิด ส่วนอีกกลุ่มคือฝ่ายนโยบายซึ่ง ครม.มอบหมายให้ ศอตช.ตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งในจำนวนนี้ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) อยู่ในข่ายด้วย แต่ไม่ได้เหมารวมทั้งหมด