กรมชลประทานเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เป็น 460 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมเท่าตัว โดยมวลน้ำจะไหลไปรวมกับน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก และจะควบคุมปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนพระราม 6 ให้อยู่ในอัตราไม่เกิน 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ซึ่งจะส่งผลให้แม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่บริเวณท้ายเขื่อนพระราม 6 อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา จนถึงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา อ.พระนครศรีอยุธยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 1.00-1.50 เมตร ทำให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสาน 3 จังหวัดภาคกลาง คือ จ.ลพบุรี, จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา เตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำ
ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย ที่ ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำสูงขึ้นเล็กน้อย แต่ทำให้ประชาชนและพระสงฆ์เดือดร้อน ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำสิ่งของบรรเทาทุกข์มามอบให้ผู้ประสบภัย
แต่ที่น่ากังวลคือบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดริมแม่น้ำน้อย ถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตร ผู้ประสบภัยบางส่วนไม่มีเรือใช้สัญจรออกมารับสิ่งของบรรเทาทุกข์ บางส่วนขาดแคลนอาหารเนื่องจากร้านค้าถูกน้ำท่วม โดยทางจังหวัดประกาศให้เตรียมรับมือกับน้ำระลอกใหม่ในสัปดาห์หน้าจากฝนที่ตกลงมาเติม
ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงที่ไหลผ่าน จ.สิงห์บุรี เพิ่มขึ้นประมาณ 10 เซ็นติเมตร ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชนใน อ.อินทร์บุรี ที่อยู่นอกแนวผนังกั้นน้ำกว่า 30 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ระบายน้ำที่ท่วมชุมชนใน 2 ตำบลคือ ต.ประศุก และ ต.ชีน้ำร้าย ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ส่วนชาว ต.ท่างาม ที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำซ่อมแซมเรือเพื่อเตรียมนำมาใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน