วันนี้ (3 ต.ค.2559) ผศ.สามารถ ทองเฝือ นักวิชาการคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี วิเคราะห์ถึงการตั้งคณะผู้แทนพิเศษรัฐบาล (ครม.ส่วนหน้า) ของรัฐบาลที่เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) ว่า ยังไม่มีความชัดเจนในอำนาจหน้าที่จึงเกรงว่าจะทับซ้อนอำนาจการบริหาร เเละเห็นว่าการรายชื่อ ครม.ส่วนหน้า ที่ประกอบด้วยทหารเป็นหลักไม่ต่างจากการตั้งรัฐบาล คสช.มาดูเเลพื้นที่ที่อ่อนไหว จึงเห็นว่า รัฐบาลส่วนหน้าอาจเป็นเพียงการจัดตาทัพในการเเก้ปัญหาภาคใต้ที่ยังไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
อำนาจหน้าที่ของ ครม.ส่วนหน้ายังทำให้ประธานกลุ่มด้วยใจ ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่กังวลว่า อาจทำให้เกิดความขัดแย้งระลอกใหม่ในวงราชการ เพราะความทับซ้อนในการทำงาน และเห็นว่าผู้ที่จะมาเป็นครม.ส่วนหน้า ก็ต้องมีความหลากหลาย มิใช่มีความรู้เพียงมิติของความมั่นคง และต้องผลักดันกระบวนการพูดคุยสันติสุข รวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่มได้มีส่วนร่วม โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิง
น.ส.อัญชนา หีมมิน๊ะ ประธานกลุ่มด้วยใจเห็นว่า รัฐบาลส่วนหน้าควรมีความเข้าใจเเละมีความรู้ความสามารถรอบด้าน ทั้งมติเศรษฐกิจ การเมือง หรือความยุติธรรม เเละไม่ควรมีอำนาจหน้าทีที่ทับซ้อนกับอำนาจรัฐที่มีอยู่เดิม และควรเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ครม.ส่วนหน้า
แต่สำหรับนายถาวร เสนเนียม อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีส่วนหน้าในสมัยรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นด้วยกับการตั้งครม.ส่วนหน้าขึ้นมาบริหารจัดการปัญหาโดยเฉพาะ แต่ผู้ที่รับผิดชอบจะต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ พร้อมเสนอแนะให้มีการตั้งสภาที่ปรึกษาที่มาจากทุกภาคส่วน เพื่อให้การรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนสามารถทำได้โดยตรง