วันนี้ (11 ต.ค. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกรมชลประทานสั่งปรับอัตราระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2,300 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำระลอกระบายระลอกใหม่ได้ไหลมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ระดับน้ำล้นตลิ่งคลองบางบาล และไหลเข้าท่วมสมทบกับน้ำที่ท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่เดิมใน 7 อำเภอ โดยระดับสูงขึ้นอีกประมาณ 25-75 ซม. ทำให้ชาวบ้านบางส่วนเรียกร้องให้ผันน้ำลงทุ่งแก้มลิงแห่งอื่นเพิ่มอีก จากเดิมที่ผันน้ำลงทุ่งผักไห่เพียงแห่งเดียว
ด้านตัวแทนชาวนาเสนาใต้ ต.มารวิชัย และชาวบ้านริมน้ำในเขตเทศบาลเมืองเสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ข้อสรุปเตรียมเปิดประตูผันน้ำเข้าทุ่ง 20 ต.ค. 2559 เพราะมีข้าวรอการเก็บเกี่ยว 27,000 ไร่
ขณะที่พื้นท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณเขตเทศบาล ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และ เขตตัวเมือง จ.อ่างทอง น้ำไหลเข้าท่วมสูงขยายเป็นวงกว้าง
ส่วน จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่นำเรือยนต์ขนาดใหญ่ 6 ลำ ช่วยเร่งผลักดันน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ หน้าประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ หากการผลักดันน้ำได้ผลดี กรมชลประทานจะเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนวันที่ 13 - 14 ต.ค.นี้ จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวตามร่องมรสุมปกคลุมบริเวณภาคกลางตอนล่าง ทำให้ กทม.และปริมณฑล จะมีฝนตกต่อเนื่องและตกเป็นบริเวณกว้าง