จากกรณีการตรวจจับบุคลที่อ้างว่าเป็นหมอนวดไปทำการรักษาโดยการกดเส้นเลือด จนทำให้ผู้ถูกนวดชักกระตุกและหมดสติไป ซึ่งผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่าเป็นอันตราย เพราะเป็นการปิดกั้นหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ไปเลี้ยงสมองอาจทำให้เสียชีวิตได้ ขณะที่สมาพันธ์แพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทยออกมาชี้แจงว่า "การนวดเปิดสมอง" ไม่มีในหลักสูตรการสอนนวดแผนไทย
ภก.ยงศักดิ์ ตันติปิฎก รองประธานสมาพันธ์แพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย หนึ่งในผู้เขียนตำราแพทย์แผนไทย กล่าวว่า การนวดเปิดสมองดังกล่าวไม่มีในหลักสูตร โดยเฉพาะการกดเส้นเลือดบริเวณลำคอ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมที่สุดของร่างกาย ซึ่งเป็นการปิดกั้นทางเดินเลือดไปเลี้ยงสมองเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
ทั้งนี้ หมอนวดที่ผ่านการอบรมหลักสูตรการนวด 50-80 ชั่วโมง สามารถนวดเพื่อการผ่อนคลาย ส่งเสริมสุขภาพได้ แต่ไม่สามารถนวดจับเส้นอ้างการรักษาได้ เพราะเป็นการบำบัด รักษาโรค โดยใช้เวชศาสตร์นวดไทยที่จำเป็นต้องมีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมแพทย์แผนไทย และต้องจบหลักสูตรปริญญาตรีและต้องสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย ต้องรู้เรื่องกายวิภาคศาสตร์ สรีระวิทยา หรือภาวะสุขภาพของผู้รับบริการ
สำหรับผู้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพทางด้านแพทย์แผนไทยแต่แอบอ้างนวดเพื่อการรักษา หรือเปิดสถานประกอบการไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดพระราชบัญญัติแพทย์แผนไทย ปี 2556 มีโทษทั้งจำคุกและปรับ
นอกจากนี้ยังพบว่ามีหมอนวดที่ขึ้นทะเบียนตามกฎหมายทั่วประเทศกว่า 50,000 คน สถานพยาบาลคลีนิคขึ้นทะเบียนกว่า 23,000 แห่ง จำนวนนี้เป็นคลีนิคการแพทย์แผนไทย 804 แห่ง แผนไทยประยุกต์ 109 แห่ง
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ จึงควรพิจารณาสถานประกอบการไม่ว่าจะเป็นสปา ร้านนวด ว่าได้มาตรฐานหรือไม่ และควรสังเกตใบอนุญาต จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธสารณสุข ตาม พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพปี 2559 โดยต้องแสดงใบอนุญาตในสถานประกอบการ หรือสามารถตรวจสอบชื่อร้านจากทางเว็บไซต์จากสภาการแพทย์แผนไทยและ สายด่วนคุ้มครองผู้บริโภค กรม สบส. 02-193-7999 เพื่อรับบริการที่ได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อชีวิต