ความทรงจำ 16 ปีที่แล้วกับภารกิจรักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก หรือประเทศติมอร์เลสเตในปัจจุบัน ยังคงชัดเจนและเป็นความภูมิใจ ที่ไม่รู้ลืม สำหรับ พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลัง 972 ไทย-ติมอร์ตะวันออก ผลัดที่ 2 ในช่วงเดือนสิงหาคม 2543 ถึงมีนาคม 2544 รวม 6 เดือน
โดยตั้งแต่ก้าวแรกที่นำกำลังพลจากกรมทหารราบที่ 6 อุบลราชธานี 690 ชีวิต ไปปฏิบัติภารกิจ ก็ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ไปเผยแพร่ให้ชาวติมอร์ตะวันออก ที่อยู่ในช่วงเตรียมพร้อมเป็นประเทศเกิดใหม่ หลังแยกตัวออกจากอินโดนีเซีย
แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นดินภูเขาไฟ ซึ่งยากต่อการทำเกษตรให้ได้ผล และยังไม่มีระบบบริหารจัดการน้ำกินน้ำใช้ จึงทำให้กองกำลัง 972 ไทย-ติมอร์ตะวันออก น้อมนำแนวทางการดำเนินชีวิตในแบบพึ่งพาตนเอง มาประยุกต์ใช้เป็นใบเบิกทาง เริ่มต้นจากการพูดคุยและทำความเข้าใจ ตามหลักการเข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา
นับตั้งแต่การให้คำแนะนำปรับปรุงดินใช้ปุ๋ยจุลินทรีย์ การบริหารจัดการน้ำ พร้อมกับการให้เมล็ดพันธุ์พืช และพันธุ์ปลา ซึ่งนำไปจากประเทศไทย ไม่เว้นแม้แต่การไถนา ที่เปลี่ยนจากใช้แรงงานม้า มาใช้ควายไถนาแทน แม้ในช่วงแรก จะมีทหารชาติอื่นๆ มองว่าสิ่งที่ทหารไทยกำลังทำนั้น ไม่ตรงกับกิจรักษาสันติภาพ แต่ความสำเร็จในการฟื้นฟู ก็กลายเป็นการยอมรับและชื่นชม จนเป็นแบบอย่าง
ไม่เพียงแค่ความสำเร็จในการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก แต่ตลอดชีวิตนั้น พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร ยืนยันว่าได้ดำเนินชีวิต ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเช่นกัน
พล.อ.พิเชษฐ์ วิสัยจร เริ่มรับราชการจากการเป็นผู้หมวดปืนเล็ก กองร้อยอาวุธเบาที่ 23 กองพันทหารราบที่ 3 ในพื้นที่ภาคอีสาน ก่อนจะเข้าสู่ตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 และเป็นอดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.พิเชษฐ์ ได้ชื่อว่าเป็นนายทหารพัฒนา โดยเฉพาะด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาชุมชน เคยเป็นหัวหน้าพัฒนาโครงการเพื่อความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ป่าดงนาทาม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ
กองทัพไทยจัดกำลังทหารเข้าร่วมเป็นกองกำลังนานาชาติ และกองรักษาสันติภาพ ภายใต้กรอบขององค์การสหประชาชาติ รวม 9 ผลัดระหว่างปี 2543-2547 รวมกว่า 6,300 นาย และเป็นหนึ่งในภารกิจรักษาสันติภาพของทหารไทย ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก เหนือกว่านั้นคือการได้เผยแพร่พระอัจฉริยภาพ และพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้นานาชาติได้ประจักษ์