วันนี้ (1 พ.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ประกอบกับโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 2559 / 2560 รวมถึงข้าวหอมมะลิ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบและอนุมัติงบประมาณในการดำเนินการนั้น สรุปรวมเกษตรกรจะได้เงินทั้งสิ้น 13,000 บาท
โดย ธ.ก.ส. จะรับผิดชอบเปิดรับจำนำในราคาเฉลี่ยตันละ 9,500 บาท พร้อมเงินช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพอีกตันละ 2,000 บาท และถ้ามียุ้งเก็บรักษาจะได้เพิ่มอีกตันละ 1,500 บาท
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าไม่สามารถทำให้เกษตรทุกคนพอใจในมาตรการช่วยเหลือได้ แต่ยืนยันว่าได้กำหนดมาตรการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว ด้วยงบประมาณที่จำกัดและกรอบปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้จะต้องเร่งแก้ปัญหาด้านการเกษตรทั้งระบบ พร้อมกับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทีมลงพื้นที่สำรวจทุกโรงสี ว่าการรับซื้อข้าวก่อนหน้านี้ มีปัจจัยอื่นแทรกซ้อนหรือไม่
ส่วน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าผลผลิตข้าวหอมมะลิส่วนใหญ่ยังไม่ออก เหตุใดจึงมีข่าวราคาข้าวตกต่ำเกิดขึ้น ซึ่งพฤติการณ์ดูจะสอดคล้องว่ามีกระบวนการสร้างความสับสน และทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ด้วยเหตุนี้จึงสั่งการให้ตรวจสอบกระบวนการทำให้ราคาข้าวตกต่ำ เบื้องต้นยังไม่พบเป็นตัวบุคคล แต่เท่าที่ทราบเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมากในพื้นที่ จ.พิจิตร
ด้าน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ คสช. กล่าวว่า ยังไม่เชื่อว่าจะมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับกระบวนการสร้างข่าวข้าวตกต่ำ แต่อาจเป็นไปได้ว่า เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในระดับท้องถิ่น ซึ่งนอกจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วอยากให้ทุกฝ่ายมีจิตสำนึกที่ดี โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์พิเศษ ที่ต้องร่วมมือร่วมใจและช่วยกันทุกฝ่าย