สัปดาห์แรกในการเปิดเทอมสำหรับเด็กๆ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้หลายคนจะดีใจที่ได้กลับมาเรียนหนังสืออีกครั้ง แต่ก็ต้องระวังตัวเมื่อเดินทางมาโรงเรียน เช่นเดียวกับคณะที่ครูที่ต้องมีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันตลอดเส้นทาง อย่างโรงเรียนบ้านดอนรัก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตลอด 1 เดือนก่อนเปิดเทอม รอบโรงเรียนเกิดเหตุรุนแรง ทั้งเหตุยิงและลอบวางระเบิด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกันพื้นที่ด้านหน้าให้เป็นที่ห้ามจอดรถ เว้นแต่รถที่มารับส่งนักเรียน และจัดกำลังของทหารหน่วยเฉพาะกิจ จ.ปัตตานี ดูแลนอกรั้ว
ส่วนภายในโรงเรียนได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อความปลอดภัย เพราะแม้จะอยู่ใกล้กับเขตเมือง แต่โรงเรียนก็เคยถูกลอบวางเพลิงเสียหายมาแล้วเมื่อปี 2549 ไม่นับรวมกับเหตุระเบิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวในตลาดโต้รุ่ง เขตเมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม ก็มีหลานสาวของครูโรงเรียนบ้านดอนรัก ถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ทำให้หลายคนต้องระวังตัว โดยเฉพาะเมื่อต้องใช้ชีวิตนอกโรงเรียน
แม้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจะเกิดเหตุรุนแรงกับครูลดลง แต่เหตุยิงครูการศึกษานอกโรงเรียน อ.มายอ จ.ปัตตานี เสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 1 คนเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็ทำให้ครูหลายคนเริ่มหวาดหวั่น เพราะในช่วง 12 ปีนี้ มีครูเสียชีวิตจากสถานการณ์แล้ว 184 คน ครูจึงเรียกร้องให้ผู้ใช้ความรุนแรงงดเว้นการก่อเหตุกับบุคลากรทางการศึกษา และสถาบันการศึกษาที่ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการสู้รบ
"ครูเป็นนักการศึกษาที่เป็นปูชนียบุคคล โรงเรียนเป็นแหล่งบ่มเพาะให้ประเทศชาติมีโอกาสก้าวหน้าไปสู่ทิศทางที่ดี อาณาเขตของโรงเรียนต้องปลอดภัย เพราะบุคคลเหล่านี้เป็นผู้บริสุทธิ์" นายบุญสม ทองศรีพราย ผอ.สำนักงาน สก.สค. จ.ปัตตานี กล่าว
โรงเรียนเป็นหนึ่งในพื้นที่สาธารณะที่ครูและเครือข่ายภาคประชาสังคมเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งลดการใช้อาวุธ พร้อมทั้งเสนอให้หยิบยกประเด็นของการสร้างโรงเรียน ตลาด และศาสนสถานของทุกศาสนาให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยขึ้นมาหารือบนโต๊ะพูดคุยสันติสุขระหว่างรัฐบาลไทย และกลุ่มมาราปาตานีอย่างจริงจัง โดยเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งมีการพูดคุยสันติสุขในประเทศมาเลเซีย ประเด็นการสร้างพื้นที่ปลอดภัยก็ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือ ซึ่งขณะนี้คณะทำงานฝ่ายเทคนิค อยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกันในการกำหนดแนวทางการสร้างพื้นที่ปลอดภัย ทั้งการกำหนดกรอบปฎิบัติ การกำหนดห้วงเวลา พื้นที่ หรือวิธีการในการลดการใช้ความรุนแรง รวมทั้งการสื่อสารไปยังกลุ่มก้อนของตัวเองให้ยอมรับไปในทิศทางเดียวกัน