สถานการณ์ราคาข้าวที่ตกต่ำ ทำให้ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เห็นชอบ ออกมาตรการช่วยเหลือชาวนา 4 มาตรการหลัก ตั้งแต่การแบ่งเบาภาระหนี้สินเกษตรกร, ลดต้นทุนการผลิต, คุ้มครองความเสียหายจากภัยธรรมชาติ และมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. อธิบายมาตรการรักษาสถียรภาพราคาข้าว จากการดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2559/2560 วงเงินกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท และโครงการให้ความช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวให้แก่ชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ปีการผลิต 2559/2560 วงเงิน ประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี รวมเป็นเงินมากกว่า 4.6 หมื่นล้านบาท
โดยชาวนาที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับเงินค่าข้าว ตันละ 9,500 บาท ระยะเวลาคืนเงินไม่เกิน 5 เดือน ไม่มีดอกเบี้ย พร้อมเงินช่วยเหลือค่าเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉางตันละ 1,500 บาท และค่าปรับปรุงสภาพข้าว ตันละ 2,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 13,000 บาท ต่อตันข้าวเปลือก
ส่วนชาวนาที่ไม่มียุ้งฉางและต้องขายข้าวเปลือกเอง จะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลตามโครงการนี้และโอนเข้าบัญชีตรง ตันละ 2,000 บาท รวมกับค่าข้าวที่ขายได้เองในตลาด ซึ่งธนาคารพร้อมดำเนินการได้ทันทีเพื่อรองรับผลผลิตที่ทยอยออกสู่ตลาดแล้ว
ก่อนหน้านี้ ธ.ก.ส.ออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ทั้งพักชำระหนี้และปล่อยสินเชื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ซึ่งเชื่อว่ามาตรการที่ออกมาจะเพียงพอและสามารถช่วยเหลือเกษตรกรตัวจริงได้อย่างครอบคลุม