เป็นเวลา 4 เดือน ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) รับรถโดยสารรุ่นใหม่ สำหรับบริการเชิงพาณิชย์จำนวน 115 คันจากประเทศจีน และได้จัดให้มีการทดสอบระบบ ก่อนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 พฤจิกายนนี้
ทีมข่าวไทยพีบีเอส สำรวจการเดินทางด้วยรถโดยสารรุ่นใหม่ โดยเริ่มต้นที่สถานีหัวลำโพง มีจุดหมายปลายที่สถานีรถไฟหัวหิน ภาพภายในขบวนรถไฟแตกต่างไปจากรถโดยสารที่เคยคุ้นตา โดยรถโดยสารปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 มีเตียงนอน ด้านบนและล่างรวมกัน 40 เตียง มีปลั๊กไฟและไฟหัวเตียง ทุกเตียงเพื่ออำนวยสะดวก
แต่รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 มี 24 ที่นั่ง 12 ห้อง ห้องละ 2 คน ที่นั่งกว้างขวาง แตกต่างจากรถชั้น 2 และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่ม เช่น ช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ จอแอลซีดีขนาดใหญ่ เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้โดยสารในอนาคตจะมีการบรรจุภาพยนตร์และเพลงเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้โดยสารตลอดการเดินทาง นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารได้จากที่นั่งผ่านจอแอลซีดี
เรื่องความปลอดภัยภายในขบวนรถ ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดตลอดทั้งคัน และติดตั้งระบบห้ามล้อแบบดิสก์เบรก ABS ระบบอัตโนมัติแจ้งเตือนการปิดประตูรถไม่สนิทก่อนขบวนออกจากสถานี
สาโรช ละอองศิริวงศ์ วิศวกร 6 กองซ่อมบำรุงรถโดยสารเขตกรุงเทพฯ ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ระบบของตัวรถมีความทันสมัยมากกว่ารถแบบเดิม ซึ่งการทดสอบระบบของรถไฟจะมีการทดสอบในทุกระยะและทดสอบเพื่อเตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งตามปกติก่อนให้บริการทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ของการรถไฟจะมีการตรวจสอบความปลอดภัย
ผู้ใช้บริการรถไฟ บอกว่า อยากใช้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ เพราะปัจจุบันรถโดยสารรุ่นเก่ามีปัญหาด้าานความสะอาดและไม่ตรงต่อเวลา รถรุ่นใหม่จึงเป็นความคาดหวังของผู้โดยสาร ว่าจะได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
การรถไฟฯ จะเปิดใช้ 2 เส้นทางแรก คือ เส้นทาง "อุตราวิถี" กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และเส้นทาง "อีสานวัตนา"กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ในเดือนนี้ ส่วนอีก 2 เส้นทางคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ต้นเดือนธันวาคม แม้ว่าการรถไฟจะปรับโฉมขบวนรถรวมถึงการให้บริการ
แต่ปัจจัยเรื่องราคาค่าโดยสารก็อาจจะเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจที่จะใช้บริการ เพราะค่าโดยสารมีความใกล้เคียงกับสายการบินโลว์คอสต์ แต่ขณะนี้ ฝ่ายจำหน่ายตั๋วของการรถไฟ ระบุว่า มีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่ จนรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 เต็มเกือบหมดไปจนถึงสิ้นปีแล้ว แต่ในชั้นที่ 2 ยังเหลือว่างเพียงบางวันเท่านั้น