น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากการให้บริการดูแลสุขภาพทางใจแก่ประชาชนที่บริเวณรอบสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.เป็นต้นมา กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายทีมสุขภาพฝ่ายกายและทีมสุขภาพจิตลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง พบตลอดระยะเวลา 1 เดือนของการให้บริการผู้มีปัญหาสุขภาพจิตประมาณ ร้อยละ 2 ซึ่งป่วยด้วยโรคทางจิตเวช โดยเฉพาะโรคจิตเภทที่มีอาการกำเริบเนื่องจากขาดยา
นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนประมาณ ร้อยละ 1 เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยพบมากในกลุ่มโรคซึมเศร้าที่มีปัญหาความเครียดสะสมมานาน เช่น ปัญหาครอบครัว เศรษฐกิจ รวมทั้งเคยมีประวัติทำร้ายตัวเองมาก่อน ซึ่งทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลทางใจ และส่งต่อเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษาแล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นปฏิกิริยาปกติโดยทั่วไปของความเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ ฟูมฟาย จากการสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก และความเครียดสะสมที่มาจากปัญหาส่วนตัว การงาน และโรคเรื้อรังทางกาย เป็นต้น
อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ภาพรวมสภาพจิตใจคนไทยในขณะนี้ดีขึ้น เนื่องจากสามารถปรับตัวได้ตามกลไกทางจิตวิทยา เมื่อพ้นช่วง 2 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน และมีการแปลงความเศร้าเป็นพลังในการทำความดีถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้เกิดกำลังใจและมีความเข้มแข็งทางจิตใจได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ สำหรัประชาชนที่ยังมีความเครียด วิตกกังวล หรือทุกข์ใจสามารถขอรับคำปรึกษาที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต 1323 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง