วันนี้ (22 พ.ย.2559) นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายปิยะ วงศ์ลือชา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร, นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ปลัดจังหวัด, นายอำเภอเมืองพิจิตร ได้ลงพื้นที่บริเวณถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน ทางหลวงหมายเลข 113 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 98-99 ต.ฆะมัง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อติดตามสภาพปัญหาการก่อสร้างเขื่อนกันแนวตลิ่งตามโครงการที่ใช้ชื่อหรูว่าโครงการฟื้นฟูทางหลวงเพื่อคืนสู่สภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งใช้งบประมาณในการก่อสร้างเกือบ 25 ล้านบาท และส่งมอบงานไป เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2558 และเมื่อเจอฤดูน้ำหลากเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2559 ปรากฏว่าเขื่อนกันแนวตลิ่งพังกลับขาดมาตรฐาน และเกิดการทรุดตัวและพังลงอย่างไม่เหลือสภาพของความมั่นคงในการก่อสร้าง
หลังจากการลงพื้นที่ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เรียกนายปัญญา ชูสกุล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิจิตร มาให้คำชี้แจง และได้สั่งการให้สำนักงานแขวงทางหลวงพิจิตร ตรวจสอบว่าถนนดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างถูกต้องตามหลักวิศวกรรมหรือไม่ รวมถึงการทำเครื่องหมายแสดงแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่เกิดเหตุเขื่อนริมแนวตลิ่งริมแม่น้ำน่านพัง ดังนั้นผู้ใช้ยวดยานพาหนะจึงต้องควรระมัดระวังบริเวณดังกล่าวเป็นพิเศษ โดยขอให้ติดตั้งป้ายและสัญญาณไฟฉุกเฉินให้เด่นชัด นอกจากนี้ ให้รีบแจ้งให้ผู้รับจ้าง ซึ่งสัญญายังอยู่ในประกันให้รีบมาดำเนินการตรวจสอบ เพื่อรับผิดชอบในจุดดังกล่าว
ในส่วนของประชาชนหรือชาวบ้านต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้งบประมาณเกือบ 25 ล้านบาท ที่สร้างเขื่อนกันแนวตลิ่งริมน้ำน่านบริเวณดังกล่าวที่เจอแค่ฤดูน้ำหลากครั้งเดียวก็พังเสียแล้ว ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่กล่าวเพียงสั้นๆว่า “น้ำลดตอผุด”