วันนี้ (25 พ.ย.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายสมนึก สมสวย คนขายข้าวโพดคั่วหน้าร้านสะดวกซื้อในปั๊มที่เกิดเหตุปล้นเงินสดธนาคารกรุงไทย 5,000,000 บาท มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วน ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพชรปานกัน ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ผู้วางแผนและลงมือปล้นอยู่ระหว่างการควบคุมตัว นอกจากนี้ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุอีก 4 คน
นายสมนึก บอกว่า ตนเองเพิ่งเปิดร้านเพียง 3-4 วันก่อนเกิดเหตุ เพื่อมาสังเกตและคอยดูต้นทางก่อนจะถึงวันปล้นตามแผนของนายไชยเดช เพชรปานกัน พี่ชายของ ส.ต.ต.วิฑูรย์ วันก่อเหตุตนเองได้โทรศัพท์หา ส.ต.ต.วิฑูรย์ และยืนยันว่า ส.ต.ต.วิฑูรย์ เป็นคนลงมือปล้นเอง โดยเลือกทำเลที่เอื้อต่อการก่อเหตุ
การแกะรอยในวันนี้ เริ่มต้นจากหลักฐาน คือโทรศัพท์ที่ตกในที่เกิดเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุตั้งใจให้ตำรวจ จ.สุพรรณบุรี ถูกดึงความสนใจไปที่อื่น ตำรวจเริ่มสอบปากคำผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งปรากฎชื่อเป็นผู้จดทะเบียนซิมการ์ด เธอระบุว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจจึงตรวจสอบย้อนกลับไปในระบบทะเบียนราษฎร์ พบว่า ส.ต.ต.วิฑูรย์ คัดข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของหญิงคนนี้ที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี โดยสุ่มหาข้อมูลด้วยวิธีการทางตำรวจ จากนั้นให้พี่ชายนำไปเปิดเบอร์และซื้อโทรศัพท์ และวางแผนโทรศัพท์ไปยังเบอร์อื่น ซึ่งปรากฎชื่อเป็นกลุ่มวัยรุ่น หลังจากก่อเหตุนายไชยเดช เป็นคนพาหลบหนีไปซ่อนตัวที่บ้านแฟนสาวใน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
ส่วนหลักฐานที่ทำให้ตำรวจรู้ที่ซ่อนตัวของ ส.ต.ต.วิฑูรย์ คือกล้องวงจรปิด โดยในวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจพบเส้นทางหลบหนี จึงปรับแผนการสืบทันทีและเข้าตรวจค้นบ้านต้องสงสัย พบหลักฐาน ทั้งรถ เสื้อผ้า และหมวกกันน็อคที่ใช้ในการก่อเหตุ
พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งพักราชการ แม้จะถูกเชิญตัวไปสอบสวน
คดีปล้นเงินสดจากพนักงานขนเงินธนาคารกรุงไทย เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้ต้องหาอีกส่วนหนึ่งที่ทำหน้าที่จัดหาอาวุธและซื้อโทรศัพท์หลบหนีอยู่ รวมถึง นายไชยเดช พี่ชายของ ส.ต.ต.วิฑูรย์
สำหรับ ส.ต.ต.วิฑูรย์ เพิ่งได้รับมอบประกาศเกียรติคุณเป็นผู้ปฏิบัติงานดีเด่นด้านสืบสวนประจำปีพุทธศักราช 2559 เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา