ร้านค้ากว่า 50 ร้านถูกก่อสร้างบนทางเท้า บริเวณชายแดนตาบา อ.ตากใบ จ.นราธิวาส มานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่วันนี้แทบไม่มีผู้ประกอบการมาค้าขาย แม้ว่าเจตนารมณ์ในการก่อสร้างของเทศบาลเมืองตากใบครั้งนี้ จะต้องการจัดระเบียบพ่อค้าแม่ค้าริมทาง แต่สภาพความเป็นจริงกลับมีผู้มาเช่าค้าขายไม่ถึง 10 ร้าน ซึ่งสภาพที่เห็นต่างจากข้อมูลที่กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าริมทางเปิดเผยกับไทยพีบีเอส โดยระบุว่าสาเหตุที่ไม่มีร้านค้ามาเปิดค้าขาย เพราะทางเทศบาลอ้างว่าร้านค้าทั้งหมด ถูกประมูลจากเอกชนบางคนแล้ว และพ่อค้าแม่ค้าจะต้องเช่าช่วงต่อจากเอกชนเอง ซึ่งแตกต่างจากที่ทางเทศบาลเคยรับปากว่าจะให้ผู้ที่เคยทำมาหากินอยู่เดิมได้เป็นผู้เช่า
แม่ค้าคนนี้ บอกว่า ก่อนหน้านี้พ่อค้าแม่ค้าจ่ายค่าที่ให้ทางเทศบาลวันละ 20 บาท โดยหลังการก่อสร้าง หลายคนก็คาดว่าจะได้ทำธุรกิจต่อไป แต่เมื่อโครงการแล้วเสร็จ พ่อค้าแม่ค้ารายเดิมกลับไม่ได้รับการจัดสรรสถานที่ให้ขายของ และทราบว่ามีผู้ประมูลสถานที่ไปทั้งหมดแล้ว บางคนจึงต้องยอมจ่ายแพงขึ้น เพื่อเช่าช่วงจากผู้ประมูลรายใหญ่ ขณะที่บางคนก็ไม่มีที่ขาย เพราะไม่มีเงินมากพอเพื่อจ่ายค่าเช่า ส่วนตัวเองก็ต้องจ่ายเงินประมาณ 15,000 บาทเพื่อเซ้งร้าน และต้องจ่ายรายเดือนโดยไม่มีใบเสร็จรับเงิน และในขณะนี้ร้านค้าทุกร้านก็ถูกตัดน้ำตัดไฟโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงเดือดร้อนอย่างมาก
ความไม่ชอบมาพากล ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 9 (ป.ป.ท.เขต 9) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการโครงการนี้ โดยพบว่าใช้งบประมาณ 4 ล้านบาท และเมื่อสร้างเสร็จกลับมีผู้ประมูลเก็บผลประโยชน์ และผู้ประมูลก็ได้เก็บจากพ่อค้าแม่ค้าเดือนละ 1,000-2,000 บาทต่อล็อค ส่วนในทำเลที่ดีจะมีคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้ารายเดิมมาจับจอง และได้ปล่อยให้พ่อค้าแม่ค้าเช่าเพื่อกินค่าเช่าอีกต่อหนึ่ง ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการใช้งบประมาณแผ่นดิน มาดำเนินโครงการบนทางสาธารณะ เพื่อหารายได้ แต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งจากการใช้ทางเท้า และต้องจ่ายค่าเช่าที่แพงขึ้น จึงได้รายงานต่อเลขาธิการ ป.ป.ท. เพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท.พิจารณา
ขณะที่เทศบาลเมืองตากใบเจ้าของโครงการได้ชี้แจงเป็นเอกสารมายัง ป.ป.ท.โดยระบุว่าการดำเนินโครงการนี้ เพื่อจัดระเบียบและสร้างความสวยงามให้เกิดขึ้นบริเวณริมชายแดน ส่วนการก่อสร้างร้านค้าบนทางเท้าสามารถดำเนินการได้ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทย