วันนี้ (4 ธ.ค.2559) เมื่อเวลา 17.00 น. นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 22 เรื่องฝนที่ตกหนักในภาคใต้ตอนล่าง และคลื่นลมแรงในอ่าวไทย โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 4-5 ธันวาคมนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรงปกคลุมตอนเหนือของเกาะสุมาตรา และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างช้าๆ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยมีผลกระทบดังต่อไปนี้ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี อ.เกาะสมุย นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง
ส่วนวันที่ 5 ธันวาคมนี้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ และหลีกเลี่ยงการสัญจรผ่านบริเวณที่มีน้ำท่วมไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ และประชาชนริมชายฝั่งในภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวังอันตรายจากคลื่นซัดฝั่งไว้ด้วย
"พัทลุง"อ่วมชาวบ้านอาศัยถนนหนีน้ำท่วมบ้าน
ขณะที่สถานการณ์ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังเพิ่มระดับสูงขึ้นทุกพื้นที่ของจังหวัดพัทลุง โดยหลายหมู่บ้านมีระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร 50 เซนติเมตร ถนนเข้าออกภายในหมู่บ้านถูกตัดขาดไม่สามารถสัญจรได้
ขณะที่หลายครัวเรือนเตรียมอพยพขึ้นมาอาศัยบนถนน โดยเฉพาะที่หมู่ที่ 4 และหมู่ 7 ตำบลป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม ชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือนต้องเร่งขนย้ายข้าวของหนีน้ำ เนื่องจากน้ำไหลบ่าเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ล่าสุดพัทลุง มีน้ำท่วมขังทั้ง 11 อำเภอ ชาวบ้านได้รับผล กระ ทบ กว่า 5,000 ครัวเรือน พื้นการเกษตรสวนยางพารานาข้าว สวนผลไม้ ถูกน้ำท่วมหลายหมื่นไร่
ขณะที่จังหวัดสงขลา ถนนเลียบชายทะเล สงขลา-นาทับ ยังคงถูกคลื่นลมแรงพัดกระ หน่ำ หลังเขื่อนหินป้องกันคลื่นได้รับความเสียหายหลายจุดเมื่อฤดูมรสุมปีที่ผ่านมา ทำให้ไหล่ทางริมถนนถูกน้ำกัดเซาะเริ่มพัง กรมทางหลวง ต้องนำป้ายมาปิดกั้นเส้นทางริมชายฝั่ง เพื่อป้องกันอันตราย