วันแรกของมาตรการ "ช็อปช่วยชาติ" ซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกรุงเทพฯ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและปรับปรุงจุดให้บริการออกใบกำกับภาษีซึ่งผู้บริโภคต้องใช้ในการขอลดหย่อนภาษี นอกจากนี้ หลายแห่งยังเตรียมเพิ่มจำนวนพนักงานและอุปกรณ์ต่างเพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอย่างเต็มที่
ผู้เกี่ยวขอ้งประเมินว่า การจับจ่ายและขอรับใบกำกับภาษีเพื่อใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามมาตรการช็อปช่วยชาติจะเพิ่มขึ้นสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และช่วงท้ายๆ ของมาตรการ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมีบริการส่งใบกำกับภาษีทางไปรษณีย์หรือให้ลูกค้ามารับด้วยตัวเองในวันถัดไปได้
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมค้าปลีกไทยคาดว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดช่วงมาตรการช็อปช่วยชาติระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.2559 ประมาณ 22,500 ล้านบาท จากจำนวนผู้เสียภาษีที่มาใช้จ่ายประมาณ 1.5 ล้านคน และจะกระตุ้นภาคอุตสาหกรรมการค้าให้ขยายตัวร้อยละ 0.2
"คนที่ต้องเสียภาษีประมาณ 3.2 ล้านคน ปี 2558 มาใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากมาตรการช็อปช่วยชาติประมาณ 1 ล้านคน ปีนี้ เราคาดว่าน่าจะมาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1.5 ล้านคน เพราะระยะเวลานานขึ้น" นายฉัตรชัยกล่าว
ด้านบรรยากาศในต่างจังหวัดก็คึกคัก ประชาชนใน จ.อุบลราชธานี เลือกซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าในพื้นที่เทศบาลเมือง เพื่อนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปช่วยชาติ โดยสินค้าที่ลูกค้าเลือกซื้อส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงกระเช้าของขวัญปีใหม่ โดยบอกว่าโครงการดังกล่าวเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนได้ระดับหนึ่ง
ที่ จ.เชียงใหม่ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หลายแห่งเริ่มคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจ เข้าสอบถามกับพนักงาน ถึงสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ก่อนจะตัดสินใจซื้อ พร้อมกับแจ้งขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ เพื่อนำไปใช้ลดหย่อนภาษี ตามโครงการของรัฐบาล
ขณะที่นายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานสภาอุตสหกรรมและการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ คาดว่าตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปีจะมีผู้ใช้สิทธิ์ตามโครงการช้อปช่วยชาติใน จ.เชียงใหม่ ไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท
อ่านข่าวเพิ่มเติม เช็คให้ชัวร์ "ช็อปช่วยชาติ" สินค้า-บริการอะไรลดหย่อนภาษีได้-ไม่ได้