วันนี้ (15 ธ.ค.2559) นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย ชี้แจงความจำเป็นในหลักการของร่างกฎหมายควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก เพื่อช่วยให้แพทย์ทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมาการโฆษณาและการส่งเสริมการตลาด ทำให้แม่และครอบครัวมีความเข้าใจไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการเด็ก
ดังนั้นร่างกฎหมายฉบับนี้จะช่วยปกป้องให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้ตัดสินใจเกี่ยวกับการเลือกอาหารได้อย่างเหมาะสม โดยไม่มีอิทธิพลของการส่งเสริมการตลาดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ร่างกฎหมายนี้ควบคุมการส่งเสริมการตลาดของนมผสมสำหรับทารกและเด็กเล็ก คือห้ามโฆษณา และการส่งเสริมการตลาดทุกรูปแบบ แต่ไม่ได้ห้ามการซื้อขาย ดังนั้นเด็กที่จำเป็นต้องใช้นมผงก็ยังหาซื้อได้ตามปกติ และไม่ได้ห้ามบุคลากรทางการแพทย์ให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงดูเกี่ยวกับนมผง
สำหรับขอบเขตการควบคุมผลิตภัณฑ์ คือ นมสำหรับเลี้ยงทารกและเด็กเล็ก แต่ผลิตภัณฑ์นมทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นนมพาสเจอไรซ์หรือยูเอชที ไม่รวมอยู่ในร่างกฎหมายนี้
ส่วนอาหารเสริมสำหรับทารกและเด็กเล็กที่ไม่ใช่นมผง ร่างกฎหมายนี้ห้ามทำการส่งเสริมการตลาดในโรงพยาบาล และห้ามส่งเสริมการตลาดกับแม่และครอบครัวของเด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว
ก่อนหน้านี้แพทยสภาร่วมกับเครือข่ายหมอเด็ก ชี้แจงว่าร่างกฎหมายฉบับนี้สุดโต่ง ทำร้ายเด็กเล็ก โดยไม่เห็นด้วยกับการควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารเสริมถึงช่วงอายุ 3 ปี เพราะเขียนกว้างเกินไป อาจสร้างปัญหาในทางปฏิบัติได้ รวมถึงการโฆษณาและการตลาดอาหารทุกชนิด เช่น นมสด นมเปรี้ยว นมโรงเรียน และเกรงว่าไม่สามารถให้ข้อมูลทางวิชาการได้