วันนี้ (15 ธ.ค.2559) นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคหารเมืองว่า จะใช้เวลาในช่วง 3-4 วันนี้ ประมวลข้อเสนอแนะต่างๆ จากพรรคการเมืองก่อนพิจารณาปรับแก้ พร้อมยืนยันด้วยว่าจะพิจารณาร่างกฎหมายลูกทั้งหมด 10 ฉบับ ให้แล้วเสร็จตามโรดแมปที่วางไว้ 8 เดือน และเชื่อว่าจะมีเวลาเพียงพอให้พรรคการเมือง เตรียมตัวในการลงสมัครรับเลือกตั้งทั่วไป
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ หรือร่างกฎหมายลูกว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งนับเป็นร่างกฎหมายลูกฉบับที่ 2 ที่ กรธ.ยกร่างเสร็จแล้ว
วันนี้ กรธ.ได้เปิดแถลงชี้แจงหลักการการเพิ่มอำนาจให้ กกต. เพื่อให้ กกต.ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
เนื้อหาสาระของร่าง พ.ร.ป.กกต.ได้มีการเพิ่มอำนาจไว้ในมาตรา 38,39 และ 42 เกี่ยวกับการสืบสวน การไต่สวนและการดำเนินคดี รวมถึงการสั่งระงับสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวได้ โดยมีอำนาจเทียบเท่ากับพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่
ส่วนมาตรา 24 ให้อำนาจกรรมการ กกต. 1 คน ตรวจการเลือกตั้ง และหากพบข้อไม่ถูกต้อง-สงสัยว่าทุจริต แจ้งและสั่งระงับได้ ขณะที่มาตรา 30 ให้อำนาจในการตรวจสอบบัญชีของพรรคการเมือง และขอข้อมูลเชิงลึกด้านการข่าวได้
ส่วนกรณีคุณสมบัติกรรมการนั้น นายปกรณ์ นิลประพันธ์ ระบุว่าในบทเฉพาะกาลให้ กกต.ที่ไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม ยังคงเป็น กกต.ต่อไป โดยจะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย และยังคงข้อบัญญัติให้ยกเลิกรูปแบบ กกต.จังหวัด โดยให้เป็นคณะผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน
ทั้งนี้ในเวลา 13.00 น.วันพรุ่งนี้ (16 ธ.ค.) กรธ.จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อร่างฯ กกต. และกำหนดจะประชุมพิจารณาปรับแก้ร่างฯ พรรคการเมือง ในวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม โดยประเด็นที่ประมวลไว้ คือ การรับสมัครและจัดระบบสมาชิกพรรค การจัดเก็บค่าบำรุงพรรคการเมือง ทุนประเดิมการจัดตั้งพรรค และการกำหนดบทลงโทษประหารชีวิต