นายอังเดรย์ คาร์ลอฟ เอกอัคราชทูตรัสเซียประจำตุรกีถูกยิงเสียชีวิตขณะกำลังกล่าวสุนทรพจน์ในงานนิทรรศการภาพถ่ายในกรุงอังการาภายใต้ชื่องาน "รัสเซียในมุมมองของชาวเติร์ก" เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 19 ธ.ค.2559 ตามเวลาในประเทศไทย ผู้ก่อเหตุคือนายเมฟลุต เมิร์ท ไอดินตาส (Mevlut Mert Aydintas) อายุ 22 ปี เป็นตำรวจสังกัดหน่วยตำรวจปราบจลาจลของกรุงอังการา
มีรายงานว่าเขาตะโกนเป็นภาษาตุรกีขณะก่อเหตุว่า "อย่าลืมอเลปโป อย่าลืมซีเรีย" และสรรเสริญพระเจ้าเป็นภาษาอาหรับ
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถูกบันทึกภาพไว้อย่างชัดเจน มือปืนสวมชุดสูทสีดำถือปืนอย่างอุกอาจมายิงนายคาร์ลอฟที่กำลังยืนกล่าวเปิดงานอยู่ที่โพเดียมต่อหน้าผู้ร่วมงานและสื่อมวลชน หลังก่อเหตุ นายคาร์ลอฟล้มลงบนพื้น ขณะที่มือปืนหันปากกระบอกปืนไปที่กลุ่มคน ท่ามกลางความหวาดกลัวและตื่นตระหนกของผู้มาร่วมงานเปิดนิทรรศการภาพถ่าย


นายคาร์ลอฟวัย 62 ปี เป็นนักการทูตผู้คร่ำหวอดและเคยดำรงตำแหน่งเอกอัคราชทูตสหภาพโซเวียตประจำเกาหลีเหนือในช่วงทศวรรษที่ 80
สื่อของรัสเซียระบุว่านายไอดินตาสลั่นกระสุนออกไปถึง 8 นัด ทำให้นายคาร์ลอฟได้รับบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ขณะที่มีรายงานว่านายไอดินตาสเสียชีวิตจากการยิงต่อสู้กับตำรวจ
การสังหารนายคาร์ลอฟมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากการประท้วงในตุรกีเพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัสเซียให้การสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์อัล อัสซาด ผู้นำซีเรีย โดยก่อนหน้านี้รัสเซียกับตุรกีได้ร่วมมือกันผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในซีเรีย และก่อนหน้าที่นายคาร์ลอฟจะถูกยิง รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ตุรกีและอิหร่านมีแผนที่จะประชุมกันในเรื่องซีเรียที่กรุงมอสโคในวันนี้ (20 ธ.ค.)
หลังเกิดเหตุ นานาชาติต่างประณามการสังหารรนายคาร์ลอฟ
นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าสหรัฐฯพร้อมให้ช่วยเหลือทั้งรัสเซียและตุรกีในการสืบสวนการโจมตี ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามนักการทูต ขณะที่ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสประณามการโจมตีด้วยถ้อยคำที่รุนแรง
ด้านประธานาธิบดีเรเซป ไทยิป เออร์ดวน ผู้นำตุรกีกล่าวถึงการสังหารนายคาร์ลอฟว่ามีจุดมุ่งหมายจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างตุรกีกับรัสเซีย ขณะที่มีรายงานนายเออร์ดวนได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียและเห็นพ้องกันว่าเป็นการกระทำที่ยั่วยุเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและกระบวนการสันติภาพในซีเรีย