โดยทั่วไปแล้วผลิตภัณฑ์ทิชชูเปียกที่ใช้ทั้งทำความสะอาด เช็ดเครื่องสำอาง หรือใช้แทนผ้าเย็น จะมีส่วนผสมของสารกันบูดเพื่อช่วยป้องกันการเติบโตของแบคทีเรียและยีสต์ในทิชชูเปียก ไม่ให้สะสมและให้เก็บผลิตภัณฑ์ไว้ได้นาน
แม้ว่าผลการสุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ทิชชูเปียกจากแหล่งผลิตทั้งในและต่างประเทศที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดบ้านเราจำนวน 44 ตัวอย่าง 254 รายการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะไม่พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์อย่างแบคทีเรียและเชื้อรา 4 ชนิดที่ก่อให้โรค แต่ก็พบว่ามีทิชชูเปียก 2 ตัวอย่างที่มีจำนวนรวมของแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อราเกินค่ามาตรฐาน โดยคาดว่ามาจากกระบวนการผลิต เก็บและขนส่งที่ไม่ถูกสุขลักษณะ
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า แม้ทิชชูเปียกที่ไม่ได้มาตรฐานจะพบแค่ร้อยละ 4.5 เท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้มีข้อมูลขององค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ที่พบว่าการใช้ทิชชูเปียกที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย ยีสต์และเชื้อรา อาจก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรง โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่เป็นเด็ก
"มีรายงานในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ผลิตภัณฑ์ทิชชูเปียกที่ไม่ได้มาตรฐานสามารถทำให้ผู้ใช้ติดเชื้อ โดยเฉพาะเด็กเล็ก การนำทิชชูเปียกไปเช็ดรอบดวงตา หรือเช็ดบริเวณที่มีบาดแผลหรือสิว ก็มีโอกาสทำให้เชื้อเข้าสู่กระเลือดได้" นพ.สุขุมให้ข้อมูล
แม้ทิชชูเปียกที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดในปัจจุบัน บางยี่ห้อจะมีข้อความที่ระบุว่าลดการสะสมของแบคทีเรีย ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และอ่อนโยนต่อผิว แต่ทิชชูเปียกยังมีสารกันบูด บางแบบอาจเติมมอยส์เจอไรเซอร์ เติมน้ำหอม เพิ่มกลิ่นต่างๆ ให้น่าใช้มากขึ้น แต่นี่ก็เป็นปัจจัยให้ผู้ใช้มีอาการแพ้ โดยเฉพาะสารกันบูดที่เรียกว่าเมทิลคลอโรไอโซไทอะโซลิโนน แบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องสำอาง
โดยผู้ที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังหรือแพ้สัมผัสและเด็กๆ มีโอกาสแพ้สารกันบูดในทิชชูเปียกได้มากกว่าคนอื่นๆ อาการเกิดได้มากน้อยแตกต่างกันไป ตั้งแต่มีผื่นขึ้นตามร่างกายบริเวณที่สัมผัสโดยตรง คนที่แพ้มากๆอาจมีอาการหน้าบวมและหายใจไม่ออก
ที่ผ่านมายังไม่มีรายงานแพ้ทิชชูเปียกรุนแรงในประเทศไทย แต่แพทย์ก็มีคำเตือนสำหรับผู้ใช้ที่มีอาการระคายเคือง หรือสงสัยว่าแพ้ทิชชูเปียก อย่างเป็นผื่น หรือบวม ควรหยุดใช้และพบแพทย์ทันที หากเป็นคนแพ้ง่ายอาจจะใช้สำลีชุบน้ำ หรือผ้าสะอาดเช็ดแทน
ส่วนผู้ที่ทดลองใช้แล้วยังไม่มีอาการแพ้ ก็ยังจำเป็นต้องสังเกตบรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อก่อนใช้ ว่าทิชชูเปียกมีฉลากภาษาไทย, จดแจ้ง อย., บอกส่วนผสม วันเดือนปี ผู้ผลิตอย่างครบถ้วน ซึ่งถือเป็นหลักการง่ายๆ เพื่อความปลอดภัยและสร้างความสบายใจให้แก่ผู้ใช้