หากเป็นนักร้องก็คงเป็นศิลปินล้านตลับ เพราะ "น้ำตาล ชลิตา ส่วนเสน่ห์" มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2016 สร้างปรากฏการณ์ "น้ำตาลล้านวิว" หลังคลิปแนะนำตัวกวาดยอดชมและแชร์ถล่มทลายในเฟซบุ๊ค จนเป็นนางงามเพียงชาติเดียวที่กองประกวดปล่อยคลิปต่อเนื่องเป็นคลิปที่ 2 และกวาดยอดชมเป็นหลักล้าน
พายุ "น้ำตาล" บุกมาถึงทวิตเตอร์ ที่แฮชแท็ก #MissUniverse และ #Thailand ติดเทรนด์อันดับต้นๆทุกวัน ยังไม่รวมแฮชแท็กน่ารักๆ "งดกินของหวานเพราะน้ำตาลแพงมาก" แรงหนุนจากโซเชียลนำพาให้นางงามไทยถูกจับตาในฐานะตัวเต็งจากโพลล์ละตินอเมริกา ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากเบื้องหลังที่น้อยคนจะรู้มาจากกลไกสำคัญคือเหล่าแฟนนางงาม ที่ร่วมแสดงพลังสนับสนุนจนเกิดเป็นวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่ม หนึ่งในประเด็นที่นำมาพูดคุยในงานเสวนา "Beyond the Universe - เกินกว่าจักรวาลที่คุณเห็น" โดยคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มองเวทีประกวดนางงามในมุมสังคม และวัฒนธรรมการเชียร์ของแฟนนางงามไทย ที่สำหรับเหล่าสาวงามเป็นทั้งพลังใจ และเอื้อต่อภาพลักษณ์ตลอดการประกวด
กว่า 10 ปีที่รวมตัวผ่านสังคมเสมือนในโลกออนไลน์ หากครั้งแรกที่พลังแฟนนางงามมีบทบาทต่อกองประกวดอย่างชัดเจน คือปี 2014 ที่เสียงสะท้อนจากแฟนนางงามจำนวนมากมีผลต่อการเปลี่ยนตัวแทนสาวงามที่มีความเหมาะสมกว่า จนมาปีนี้ที่กองประกวดทำงานร่วมกับแฟนนางงามที่มีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะการวางหมากด้านโซเชียลเพื่อเรียกความสนใจจากเจ้าภาพฟิลิปปินส์ และผู้ถือลิขสิทธิ์การประกวดอย่าง IMG ที่ชอบเล่นกับกระแส ทั้งการปล่อยรูปกระเป๋า 17 ใบไปล่ามง หรือการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส หลังมีภาพหลุดว่านางงามไทยจะสวมเสื้อ "บาร็องตากาล็อก" ของฟิลิปปินส์ในวันที่บินไปประเทศเจ้าภาพ ซึ่งการตัดสินใจของแฟนนางงามและกองประกวดที่ใช้สื่อโซเชียลโหมกระแสแทนนั้นได้ผล เมื่อมีสื่อเจ้าภาพมารอสัมภาษณ์ตั้งแต่ก้าวแรกที่แตะสนามบิน
ในยุคที่การประกวดนางงามเทียบได้กับการดูรายการโชว์ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายิ่งนางงามคนไหนเป็นที่พูดถึง ก็ยิ่งเอื้อกับเรตติ้งและกระแสของกองประกวด โดยเฉพาะปีนี้ที่มีการเปลี่ยนกฏ ให้ผลโหวตจากคนดูมีส่วนกำหนดชะตาผู้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย พลังจากแฟนนางงามจึงเป็นอีกตัวแปรสำคัญ กับการลุ้นมงกุฏที่สามของประเทศไทย ในวันที่ 30 มกราคมนี้