วันนี้(10 ก.พ.2560) ศาลปกครองยกคำร้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมพวกรวม 5 คน ที่ขอทุเลาและคุ้มครองคำสั่งทางปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2559 ให้ชดใช้ค่าเสียหายจากการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี มูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท หลังไต่สวนแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2559
โดยให้เหตุผลว่า การจะออกคำสั่งทุเลาการบังคับคดีตามคำสั่งพิพาทในระหว่างพิจารณาคดีได้นั้นต้องครบ 3 เงื่อนไขของกฎหมาย คือ คำสั่งยึดทรัพย์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากคำสั่งมีผลบังคับใช้จะส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงเกินเยียวยาในภายหลัง และการทุเลาบังคับคดีจะไม่เป็นอุปสรรคแก่การบริหารงานภาครัฐ ซึ่งศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ยังไม่มีการใช้มาตรการยึดทรัพย์ เป็นเพียงการส่งหนังสือให้ชดใช้ค่าเสียหายใน 15 วันเท่านั้น จึงไม่เข้าเงื่อนไข
ก่อนหน้านี้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เคยขี้แจงขั้นตอนการบังคับคดีเพื่อนำทรัพย์มาชดใช้ค่าสินไหมตามคำสั่งกระทรวงพาณิชย์ ต้องดำเนินการภายใน 45 วัน นับแต่ออกคำสั่ง แต่ขณะนี้การบังคับคดีก็ยังไม่เกิดขึ้น
น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม ชี้แจงว่า ขณะนี้กรมบังคับคดียังไม่ได้รับเรื่องจากกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ถือว่าเป็นผู้เสียหาย จึงยังไม่สามารถดำเนินการอายัดทรัพย์ใดๆ ได้
ด้าน นางดวงพร รอดพยาธิ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือให้กรมบังคับคดีไปตามขั้นตอนแล้ว แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล
ก.เกษตร กังวลพท.ปลูกข้าวพุ่งกว่า 6 ล้านไร่
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมหารือเพื่อรับมือผลผลิตข้าวนาปรังปี 59/60 คาดว่าจะมีผลผลิตเพิ่มจากที่คาดการณ์ไว้กว่า 2 ล้านตัน โดยน.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ได้เตรียมแผนรองรับการดูดซับปริมาณข้าวใหม่ที่ออกมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวเจ้าโดยการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น ในตลาดที่มีความต้องการข้าวขาว เช่น แอฟริกาฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อิหร่าน อิรัก รวมทั้งขยายตลาดในประเทศ เช่น ส่งเสริมให้มีตลาดกลางค้าข้าวสารเพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะช่วยลดปริมาณผลผลิตข้าวและพยุงราคาข้าวได้ส่วนหนึ่ง
ส่วนแผนรับมือผลผลิตข้าวนาปี 2560/61 ที่จะทยอยออกปลายปีนี้ คณะกรรมการบริหารจัดการข้าวครบวงจร จะหารือเพื่อจัดทำแผนรับมือให้สอดคล้องกับความต้องการ เบื้องต้นคาดผลิตได้ 27-29 ล้านตันข้าวเปลือก ส่วนแผนรองรับจะเน้นตั้งแต่เชื่อมโยงตลาดค้าข้าว จัดหาตลาดส่งออกใหม่ๆ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มมูลค่าข้าว
ขณะที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า ยอมรับกังวลใจในปีนี้ข้าวไทยอาจะล้นตลาด หลังสำรวจพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังทั่วประเทศ ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2560 พบว่ามีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังลุ่มเจ้าพระยา และลุ่มแม่กลองแล้ว 6.57 ล้านไร่ สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 4 ล้านไร่ หรือมากกว่าเป้า 2.57 ล้านไร่
โดยในปีนี้จะพยายามควบคุมปริมาณปลูกข้าวให้เป็นไปตามแผน โดยเน้นการลดพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสมและน้ำน้อย พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เป็นการบังคับเกษตรกรห้ามปลูก แต่เป็นการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนมาปลูกพืชที่เหมาะสม