ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สศช.คาดว่าจีดีพีปีนี้โต 3-4% จากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว-ลงทุนภาครัฐ-ราคาสินค้าเกษตรปรับดีขึ้น

เศรษฐกิจ
20 ก.พ. 60
11:05
191
Logo Thai PBS
สศช.คาดว่าจีดีพีปีนี้โต 3-4% จากเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว-ลงทุนภาครัฐ-ราคาสินค้าเกษตรปรับดีขึ้น
สศช.ประเมินจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2559 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ขณะที่ทั้งปีขยายตัวได้ร้อยละ 3.2 ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3-4 จากการเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟื้นตัว การขับเคลื่อนการลงทุนภาครัฐ ราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น

วันนี้ (20 ก.พ.2560) นายปรเมธ วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 3.0 ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 3.2 ทำให้จีดีพีทั้งปี 2559 ขยายตัวร้อยละ 3.2 เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ขยายตัวได้ร้อยละ 2.9 เนื่องจากการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวดีขึ้นจากภาษีการท่องเที่ยวที่กระตุ้นการจับจ่าย การลงทุนภาครัฐและเอกชน การใช้จ่ายงบประมาณการบริโภคที่ดีขึ้นจากราคาสินค้าเกษตร รวมทั้งการส่งออกที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก เช่นเดียวกับหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ญี่ปุ่น อินเดีย ยกเว้นจีนที่ยังคงติดลบร้อยละ 5.2 สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัวตามเศรษกิจโลกที่จีพีดีขยายตัวร้อยละ 3.1-3.3 โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศอื่น

นอกจากนี้ ยังมาจากการค้าโลกที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น คาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.6 การส่งส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกที่ร้อยละ 2.9 นอกจากนี้ ยังมาจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น การลงทุนภาครัฐที่เริ่มเบิกจ่ายงบประมาณได้ในปีนี้ โครงการระบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมไปถึงรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีรายได้สูงขึ้นกว่า 1.9 ล้านล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีปีนี้ขยายตัวได้ที่ร้อยละ 3-4 โดยรัฐบาลจะต้องสนับสนุน เพื่อให้จีดีพีเป็นไปตามเป้าหมาย โดยเร่งขับเคลื่อนการใช้จ่ายภาครัฐ สนับสนุนการส่งออก สนับสนุนการขยายตัวการผลิตภาคเกษตร และรายได้เกษตรกร การสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนภาคเอกชน สนับสนุนการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงต้องติดตามทั้งทิศทางนโยบายสหรัฐฯ ผลการเจรจาและความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป การเมืองอิตาลี ปัญหากรีซ ปัญหาความอ่อนแอสถาบันการเงินยุโรปและเสถียรภาพเศรษฐกิจจีน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง