ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คืนชีพ “ทามิย่า” รถซิ่งเด็กยุค 90 สร้างสังคมนักแต่ง สู่นักแข่งแถวหน้าเอเซีย

ไลฟ์สไตล์
24 ก.พ. 60
20:04
31,693
Logo Thai PBS
คืนชีพ “ทามิย่า” รถซิ่งเด็กยุค 90 สร้างสังคมนักแต่ง สู่นักแข่งแถวหน้าเอเซีย

กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งสำหรับรถของเล่นอย่าง "ทามิย่า" หลังเคยฮิตสุดเมื่อกว่า 20 ปีก่อน จากการ์ตูนเรื่องดัง Let’s&Go จุดเริ่มต้นของวงการรถแข่งมินิที่ขับเคลื่อนโดย มอเตอร์ พลังถ่าน และการกลับมาครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการเล่นสนุกเท่านั้น ผู้ชนะยังมีสิทธิ์คว้าตั๋วไปชิงชัยระดับเอเชีย

รถแข่ง "ทามิย่า" จากการ์ตูนสู่ของเล่นสุดฮิตในวัยเด็ก

“เชื่อว่าหลายคนต้องมีของเล่น “สักชิ้น” ที่ยังอยู่ในความทรงจำถึงแม้จะผ่านไปกี่สิบปี ของเล่นชิ้นโปรดก็ยังติดอยู่ในใจเสมอ สำหรับผมคือ รถทามิย่า"

 

นายกิตติพงษ์ พุฒพรหม (บอล) วัย 32 อาชีพรับราชการ เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ B.M.A RACING FACTORY หนุ่มผู้รักและชื่นชอบในรถแข่งตั้งแต่วัยเด็ก จนได้กลับมาปัดฝุ่นเล่นใหม่อีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ และไม่เพียงแต่กลับมาเล่นปัจจุบันเขายังเป็นผู้จัดทำเพจเฟซบุ๊กให้ผู้ที่สนใจและชื่นชอบเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยกัน

นายกิตติพงษ์ เล่าว่า เพราะความชื่นชอบการ์ตูนเรื่อง Let’s&Go หรือ “นักซิ่งสายฟ้า” กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเล่นรถ Mini 4WD หรือ “รถทามิย่า” (Tamiya) รถของเล่นติดมอเตอร์ วิ่งด้วยพลังถ่าน รูปร่างโฉบเฉี่ยว สมัยก่อนรู้จักกันในชื่อ “รถตราเพชร” รถก้างมีแต่โครงไว้เล่นแข่งทดสอบความเร็วกับเพื่อน ใครมีถือว่าเจ๋ง เล่นได้ทั้งในรางและนอกราง

มอเตอร์ที่นิยมใช้กันในสมัยนั้นจะเป็นมอเตอร์ดำ-แดง อาจไม่เร็วเท่ายุคนี้ ยิ่งใครมีเทคนิคในการพันมอเตอร์ดีหน่อยรถยิ่งแรงวิ่งเร็วกว่าคู่แข่งก็ทำให้ยิ้มออกแน่นอน แต่ปัจจุบันไม่ได้มีแต่การแข่งกันให้รถวิ่งเร็วและแรงเท่านั้น ความสวยของตัวรถ อุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งก็สามารถสร้างสีสัน ความภูมิใจให้ผู้เล่น และประทับใจผู้ชมได้ไม่น้อย

“ตอนเด็กราคารถค่อนข้างแพง 300-400 บาท สมัยนั้นใครมีก็เอาไว้อวดเพื่อนได้ ใครอยากได้ก็ต้องเก็บเงินหรือไม่ก็ขอพ่อแม่เอา นำมาแข่งขันกับเพื่อนมอเตอร์ใครแรงกว่า ทำให้รถวิ่งได้เร็วกว่า ถ่านไม่หมดซะก่อน ไม่หลุดรางก็ถึงว่าสุดยอดแล้ว และเราเองก็มีความสุขที่ได้เล่น” 

 

ก่อนหน้านี้ กระแสได้เงียบหายไปกว่า 10 ปี จนปัจจุบัน “รถทามิย่า” ได้กลับมาสร้างสีสันให้กับวงการรถของเล่นอีกครั้ง นั้นอาจเป็นเพราะสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้เกิดกลุ่ม คนเล่นรถทามิย่าเพิ่มมากขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด มีไม่ต่ำกว่า 100 กลุ่ม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มคนที่เพิ่งเริ่มชื่นชอบ และเด็กๆ ที่เคยเล่นในอดีตต่างกลับมารวมกลุ่มกันเล่นอีกครั้ง เหมือนเป็นการสานฝันวัยเด็กที่ไม่มีโอกาสได้เล่น

รถแข่งทามิย่าไม่ได้มีไว้เล่นสนุกแข่งขันเพียงความเร็ว ความแรงของรถเหมือนในอดีต กติกาการแข่งขัน สนามแข่งก็ได้พัฒนาขึ้นตามยุคสมัยมีความเป็นสากลมากขึ้น นับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายให้กับผู้เล่นได้ไม่น้อย 

 

นายกิตติพงษ์ ยังเล่าว่า ของเล่นชิ้นนี้เล่นแล้วไม่น่าเบื่อแน่นอน เพราะนอกจากผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้ากับสภาพสนามที่เพิ่มลูกเล่น ความท้าทายให้กับผู้เล่นมากขึ้น มีทั้งการมุด ลอด โค้ง ซิกแซก ไม่เป็นรางตรงๆ แบบในอดีต ผู้เล่นต้องเรียนรู้

รถ “ทามิย่า” ในปัจจุบันที่นิยมเล่นกัน 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น Open box รุ่น Standard และ รุ่น J-Cup ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกัน คนที่เริ่มเล่นใหม่ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นที่รุ่น Openbox แกะกล่องประกอบก็สามารถเล่นได้เลย แต่หากไม่อยากเล่นคนเดียว ต้องการเพิ่มความสนุกด้วยการร่วมแข่งขันในสนามที่เริ่มมีมากขึ้นเลือกไปทดสอบ ลองเล่น ได้ทั้งเพื่อนเผลอๆ อาจได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับบ้านก็ได้

 

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มเล่นสามารถหาซื้อได้ทั่วไป ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักพัน นั้นอาจขึ้นอยู่กับรุ่นและการปรับแต่งเพิ่มเติ่ม อะไหล่แท้ราคาก็พุ่งสูงไปถึงหลักหมื่นต่อคันก็มี

หลายคนมองว่าเป็นของเล่นของเด็ก แต่อย่าลืมว่าบางอย่างเด็กก็ทำไม่ได้ เช่น การปรับแต่งที่ต้องใช้เทคนิค ประสบการณ์ของผู้เล่นแต่ละคน การแข่งขันทุกคนสามารถเป็นผู้ชนะได้หมด คนแพ้ก็ต้องหาวิธีการปรับเปลี่ยน เพิ่มเติมอุปกรณ์รถตัวเองให้ดีขึ้น ซึ่งนอกจากจะต้องแข่งกับตัวเองแล้ว ใครที่รู้จักสนามมากกว่า รู้จักรถตัวเองมากกว่า ก็สามารถเป็นผู้ชนะได้ไม่ยาก 

 

ด.ช.สิริภพ ประวัติเลิศวัฒนา (เปา) นักเรียนชั้นประถมปีที่ 5 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวว่า เพิ่งสนใจและอยากลองเล่นรถทามิย่า หลังเห็นสนามแข่งในห้างสรรพสินค้า โดยซื้อมาในราคา 500 บาท และมาลองแข่งในสนามนี้เป็นครั้งแรก พ่อแม่ก็สนับสนุน เพราะไม่มีผลกระทบกับการเรียน รู้สึกสนุกและอยากกลับมาเล่นอีก ก่อนหน้านี้เล่นกันดั้ม ขณะที่ พ่อและแม่ของน้องเปา กล่าวว่า พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในกิจกรรมที่ลูกสนใจ

ด.ญ.ปาลิตา หาดารา อายุ 8 ปี กล่าวว่า เล่นมาหลายปีแล้ว ลุงเป็นคนชักชวนให้เล่น รู้สึกชื่นชอบ และสนุกทุกครั้งที่ได้เล่น อีกทั้งยังได้พบปะกับเพื่อนคนอื่นๆ แต่งรถเน้นสีสันสดใส สีที่ชอบเป็นพิเศษคือสีชมพู รางวัลล่าสุดที่ได้คือรายการ J-Junior

โปรเจกต์ใหญ่ สนามแข่ง "รถทามิย่า" ระดับเอเซีย

นายรัตนพงษ์ แตงใย (โน๊ต) อายุ 32 ปี หนึ่งในผู้จัดการแข่งขัน "mimi 4 WD THAILAND CHALLENGE และเจ้าของเฟซบุ๊กเพจ “ทามิย่า MINI 4 WD” เล่าว่า 2 ปีที่ผ่านมา รถแข่งทามิย่าได้รับการพูดถึงขึ้นมาอีกครั้ง นั้นอาจเป็นเพราะเป็นของเล่นที่ใช้แข่งขันได้ สนามการแข่งขันที่เกิดขึ้นมากมายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด สร้างสังคมนักแข่ง มีการรวมกลุ่ม พบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเทคนิค หรือแม้กระทั่งจัดการแข่งขัน อย่างการแข่งขันรถก่อนหน้านี้ที่มีรถแต่ละรุ่นมีไม่ถึง 100 คัน แต่ปัจจุบันสูงสุดถึง 300-400 คัน 

 

“สนาม” เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนเล่นมา "ปล่อยของ" แสดงความสามารถในสิ่งที่ตนเองชอบ และปัจจุบันไม่เพียงเป็นแค่เด็กเท่านั้นที่เล่น มีอยู่ทุกเพศทุกวัย ทั้ง วัยรุ่น วัยทำงาน หรือแม้แต่รุ่นใหญ่วัยเกษียณ

ความสนุกของการแข่งขันรถทามิย่าไม่เพียงแต่นักแข่งอย่างเดียวเท่านั้น ผู้คนที่สัญจรไปมาหลายคนที่เห็น ก็ต้องแวะเข้ามาดู เสียงหัวเราะเฮฮา เสียงเชียร์ของผู้แข่งขันนักแข่ง ยังช่วยสร้างความตื่นเต้น ทำให้สนุกเข้าไปอีก 

 

สำหรับกิจกรรมการแข่งขันจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกสัปดาห์ ส่วนใหญ่จะจัดกันในห้างสรรพสินค้า เพราะได้รับความสะดวกสบายทั้งผู้ร่วมแข่งขันและผู้ชม ในการจัดการแข่งขันนอกจากจะทำให้ผู้แข่งและผู้ชมสนุกไปกับเกมแข่งรถแล้ว

ปัจจุบันวงการ “รถแข่งทามิย่า” เปลี่ยนไปมากมีการพัฒนาขึ้นทั้งในเรื่องของ กฎกติกา สนามแข่งขัน รวมไปถึงตัวรถที่มีรูปลักษณ์ดูสวยงาม สีสันยังสดใสมากขึ้น อุปกรณ์ตกแต่งมากมาย คนเล่นเมื่อก่อนต้องการเล่นเพื่อความสนุกอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้เรามีเงินรางวัลให้ด้วย แถมคนที่ชนะการแข่งขันยังมีโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันถึงต่างประเทศอีกต่างหากนับเป็นอีกก้าวของวงการทามิย่าในเมืองไทยก็ว่าได้

ที่ผ่านมา มีตัวแทนประเทศไปแข่งขันทามิย่าในระดับอาเชียกันหลายคน ซึ่งการแข่งขันจัดขึ้นเกือบทุกปีทั้งที่ญี่ปุ่น ฮ่องกง และปีนี้จัดที่ประเทศอินโดนีเซีย แต่ส่วนใหญ่คนก็จะนึกถึงที่ญี่ปุ่นเพราะเป็นสนามแข่งที่ใหญ่อย่าง Japan cup จัดปีละ 1 ครั้งในช่วงปลายปี

 

สำหรับปีนี้ การหาตัวแทนเพื่อไปแข่งขัน ASIA CHALLENGE 2017 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในรุ่น Japan Cup เริ่มเปิดแข่งขันตั้งแต่ วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา สนามแรกที่ห้างสรรพสินค้า HAHA ถนนศรีนครรินทร์ โดยได้รับการตอบรับจากผู้เข้าแข่งขันเป็นอย่างมาก เพื่อคัด 15 คนสุดท้ายเพื่อเข้าไปชิงชัยคว้าโควต้า ในสนามสุดท้าย วันที่ 30 เม.ย.2560 ที่สนามสมุทรปราการ ผู้ชนะก็จะได้รับตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พักไปร่วมการแข่งขัน

นอกจากนี้ ยังมีการแข่งขัน รุ่น Open Box League รุ่น Standard League และ รุ่น Japan Cup League เสียค่าสมัครคันละ 100 บาท ก็สามารถเล่นได้ทันที แต่ละรุ่นจะมีกฎกติกาที่แตกต่างกันไปอย่างรุ่น Open Box สามารถยำอะไหล่ได้ ห้ามใส่กันชน ลูกปืน ตุ้ม ยางเจียร ใช้ถ่านชาร์จหรืออัลคาไลน์ได้ไม่เกิน 1.5V ขณะที่ เงินรางวัลก็มีตั้งแต่ 1,000 – 3,000 บาท พร้อมเหรียญรางวัล

วงการรถแข่งทามิย่าในเมืองไทยยังคงต้องพัฒนาต่อไป ทั้งการจัดการแข่งขัน กติกา การเฟ้นหาตัวแทนเพื่อไปชิงชัยในต่างประเทศ อนาคตอยากเชิญนักแข่งจากหลายๆ ประเทศเข้ามาแข่งที่ประเทศไทย ทำให้วงการแข่งรถทามิย่าเป็นที่รู้จักมากขึ้น และให้ไทยเป็นจุดศูนย์กลางมากขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับแผนต่อไปเตรียมพูดคุยภาคเอกชนสนับสนุนเพื่อที่จะก่อตั้งสมาคมรถแข่งทามิย่าโดยเฉพาะ นายรัตนพงษ์ กล่าว

เปิดเทคนิคนักแข่ง "ทามิย่า" มืออาชีพ

นายพงษ์พฒน์ สุวรรณเพ็ญ (พีช) อายุ 30 ปี นักแข่งทามิย่าสังกัดทีม MAD Bulls เล่าว่า ตนเองกลับมาเล่นได้ 6 ปีแล้ว รุ่นหลักๆที่เล่นกันเยอะๆ ก็จะมี J-cup สำหรับเด็กรุ่นใหม่ๆ ที่จะเริ่มเล่นก็จะเริ่มที่ Openbox แต่ผมเริ่มเล่นรุ่น Standard เลย พอเริ่มแข่งได้สักปีเริ่มมีผลงานก็มาเล่น J-cup แทนเพราะเป็นรุ่นที่เล่นกันทั่วโลก

ความชื่นชอบเล่นทามิย่าแล้วเหมือนมีเพื่อน สนุกได้คิดได้ทำอะไรใหม่ๆ อย่างรถหนึ่งคันก็จะมีการสร้างสรรค์อะไรหลายๆ แบบแล้วแต่คนชอบตอนนี้มีรถที่ใช้แข่ง 13 คัน เรียกได้ได้แชมป์หมดทุกคัน หัวใจหลักที่ทำให้รถกุมชัยชนะได้นั้นอยู่ที่ “เบรก” อุปสรรคในการแข่งทามิย่าคือ มีการกระโดด สลับเลน กลับรถแบบเกือกม้า เพราะฉะนั้นเบรกก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่สามารถทำให้เราเก็บชัยชนะได้

สำหรับคนที่ชื่นชอบรถทามิย่าอาจมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นบ้างในการปรับแต่ง ซื้ออุปกรณ์เสริม อย่างรุ่น Standard 1 คัน ค่าใช้จ่ายรวมๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 4,000 บาท ทั้งนี้ก็อาจจะขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่งของแต่ละคนด้วย


“เล่นของเล่นก็ควรเล่นให้สนุก ไม่ได้คิดว่ามันจะแพงหรือถูกถ้าเล่นแล้วไม่สนุกอย่าไปเล่น เล่นให้สนุกดีกว่า”

นายพงษ์พฒน์ กล่าวว่า เสน่ห์ของรถทามิย่าคือ “การกระโดด” อย่าคิดว่า คือ “ความเร็ว” การที่จะทำให้กระโดดลงพื้นได้พอดีเป๊ะทำยังไง อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคและประสบการณ์ของแต่ละคน นั้นคือความสนุกของรถทามิย่า

ก่อนเคยคิดว่าหากมีโอกาสที่จะไปชิงแชมป์โลก แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดเล่นเพื่อสนุกดีกว่าเราคิดว่าเราทำกับสนามนี้ให้เต็มที่ก็พอแล้ว ไม่ต้องไปคิดมาก อย่าไปซีเรียสกับของเล่น

ฝากถึงน้องๆ ที่อยากจะมาเล่นผมแนะนำว่า ถ้าเอาเวลาไปติดเกมชวนเพื่อนมาเล่นทามิย่าดีกว่า ผมกล้าพูดได้เลยว่ามี “สกิล” บางอย่างติดตัวไปแน่นอน

ยไมพร คงเรือง ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ รายงาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง