วันนี้ (15 มี.ค.2560)
วันนี้ (15 มี.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) นายวีระ สมความคิด ระบุว่า เขาถูกแจ้งข้อหา นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือ บางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2550 จากกรณีการทำโพลผ่านเฟซบุค เพื่อวัดความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
ส่วนที่พนักงานสอบสวนใช้วิธีการออกหมายจับแทนการออกหมายเรียกก่อนนั้นได้รับคำชี้แจงว่า เป็นอำนาจที่สามารถดำเนินการได้
นายวีระ ยืนยันว่า การทำโพลครั้งนี้ ไม่มีเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐบาล เพียงต้องการสะท้อนความคิดเห็นประชาชน และแม้จะถูกดำเนินคดี ก็จะยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลต่อไป พร้อมระบุว่ารัฐบาลอยากเห็นการปรองดอง แต่สิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้ เป็นเหมือนการปิดปากประชาชน ซึ่งไม่ใช่การปรองดอง หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวนายวีระ โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงิน 1 แสนบาท และไม่ได้กำหนดเงื่อนไขใด ๆ แต่นัดหมายให้นายวีระมาให้ปากคำอีกครั้ง ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์
นอกจากนี้ นายวีระ ยังกล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการรับเงินเดือนจากบริษัทเอกชน ของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร (ผบช.น.)ว่า แม้ผู้ตรวจการแผ่นดินจะยุติการตรวจสอบว่า พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กระทำละเมิดจริยธรรมหรือไม่ กรณีแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่า ได้รับเงิน เดือนละ 50,000 บาท จากการเป็นที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด มหาชน หลังไม่พบหลักฐาน แต่ไม่ได้หมายความว่าการตรวจสอบเรื่องนี้จะยุติลง เพราะยังมีการตรวจสอบจากองค์กรอื่น รวมถึงการตรวจสอบจากสังคม เพราะต้องยอมรับว่า กรณีนี้คนทั่วไป สามารถมองออกว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า วันที่ 17 มี.ค.นี้ จะเข้าพบ ป.ป.ช.เพื่อชี้แจงข้อมูล หลังยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าการกระทำของ พล.ต.ท.ศานิตย์เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ป.ป.ช.และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ และเตรียมเสนอให้ ป.ป.ช.สอบเพิ่มเติม พล.ต.ท. ศานิตย์ ประเด็นการยื่นเอกสารเท็จต่อ ป.ป.ช.
ก่อนหน้านี้นายศรีสุวรรณ ได้ยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบ พล.ต.ท.ศานิตย์ ว่ากระทำการเข้าข่ายผิดจริยธรรมด้วยหรือไม่ แต่ล่าสุด ผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติยุติตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ เนื่องจาก ป.ป.ช.จะตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีทรัพย์สินหลังพ้นจากตำแหน่งแล้ว
รวมทั้ง พล.ต.ท.ศานิตย์ ได้ชี้แจงว่าไม่ได้เป็นที่ปรึกษาบริษัทไทยเบฟฯ ส่วนข้อมูลที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.เป็นการหลงผิดในข้อมูล เพราะให้คนอื่นเป็นผู้ทำเอกสารให้ ขณะที่บริษัท ไทยเบฟฯ เองก็มีหนังสือแจ้งว่าไม่ได้จ้าง พล.ต.ท.ศานิตย์ เป็นที่ปรึกษา