หากย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา วันที่ 16 มีนาคม 2557 ที่ตำบลแพรกษา อ.เมือง จ.สมุทร ปราการ เกิดเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะมูลฝอยบนเนื้อที่ 153 ไร่ ไฟได้ปะทุต่อเนื่อง ยากแก่การควบคลุมเพลิง จนทำให้มีกลุ่มควันไฟหนาแน่น และลอยเข้าปกคลุมเขตชุมชนในละแวกใกล้เคียง
ทำให้มีการอพยพประชาชนในรัศมี 1.5 กิโลเมตรออกจากพื้นที่ โดยผลจากการตรวจสอบคุณภาพอากาศ ในที่เกิดเหตุของ กรมควบคุมมลพิษ หรือ คพ. พบสารซัลเฟอร์ได้ออกไซด์เกิดค่ามาตรฐาน 30 เท่า และฝุ่นละอองขนาดเล็กมากถึง 650 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐาน 30 เท่า
จากการลงพื้นที่ล่าสุด ของไทยพีบีเอส พบว่าพื้นที่ทั้ง 153 ไร่ คลุมไปด้วยหญ้าและกลายเป็นป่ารกร้าง ไม่หลงเหลือสภาพของบ่อขยะให้เห็นแล้ว โดยยังคงพบซากขยะที่ถูกไฟไหม้กองทิ้งไว้ และมีน้ำขังอยู่จำนวนมาก จากที่สภาพเดิมที่เคยเป็นบ่อขุดดินขาย
นายภราดร รอดเลี่ยม รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา บอกว่า ขณะนี้ยังไม่มีแผนการฟื้นฟูด้านสภาพแวดล้อมภายในบ่อขยะที่ชัดเจน ทำให้ขยะจำนวนมากยังอยู่ใต้บ่อที่ลึกลงไปกว่า 10 เมตร โดยไม่สามารถสูบน้ำออกจากบ่อและนำขยะออกไปได้ เนื่องจากอาจทำให้พื้นที่ใกล้เคียงเกิดดินทรุดและพังทลายลงได้
“ อบต.แพรกษา กำกับติดตาม การแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่กระทบต่อชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสั่งให้เจ้าของที่ดินสร้างกำแพงปิดล้อมพื้นที่ ป้องกันการลักลอบทิ้ง รวมถึงติดตั้งเครื่องสูบน้ำรอบบริเวณ และจัดเวรยามเฝ้าบ่อขยะตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากยังมีขยะตกค้างและสารพิษที่ปนเปื้อนในบ่อขยะ ที่ยังไม่ถูกจัดการอย่างถูกวิธี จึงเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้ได้ตลาดเวลา” นายภราดร กล่าว
ทีมข่าวไทยพีบีเอส สอบถามนางจริยา ทิมประดับ ชาวบ้านแพรกษา ม.4 ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ บอกว่า ยังหวาดระแวงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้น เนื่องจากไฟได้ลุกลามมาใกล้พื้นที่ชุมชนมาก ชาวบ้านที่นี่ต่างก็อยู่ในเหตุการณ์และช่วยกันดับไฟ และปัจจุบันก็ยังไม่มีการปิดล้อมพื้นที่ฝั่งที่ติดกับเขตชุมชน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำขยะออกและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำ
ชาวบ้านในตำบลแพรกษา ยังอยากให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เข้มงวดกับการแก้ปัญหาขยะ เพราะยังมีการลักลอบทิ้งขยะตามจุดที่เป็นพื้นที่ว่างเปล่าและริมถนน หากยังปล่อยไว้เช่นนี้ ก็อาจกลายเป็นขยะกองใหญ่อย่างเ ช่นบ่อขยะแพรกษาที่เกิดไฟไหม้
ก่อนหน้านี้เจ้าของที่ดินให้ข้อมูลว่า ที่ดินผืนนี้ปล่อยให้บริษัทเอกชนเช่าเพียง 30 ไร่ จาก 153 ไร่ ทำสัญญาเช่า 3 ปี เพื่อทำบ่อกำจัดขยะมูลฝอยและรีไซเคิลขยะ โดยอบต.แพรกษาออกใบอนุญาตให้ดำเนินการได้ตั้งแต่ปี 2554 แต่ระหว่างดำเนินกิจการมีการลักลอบนำขยะกากของเสียอุตสาหกรรมมาทิ้ง นานกว่า 2 ปี และขยายพื้นที่ทิ้งขยะมากกว่า 30 ไร่ จนเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บ่อขยะครั้งรุนแรง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2557
เหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นบทเรียน สะท้อนปัญหาการจัดการขยะของภาครัฐเท่านั้น ผลกระทบที่รุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของคนในชุมชนรอบบ่อขยะ ยังเป็นตัวอย่างการเรียกร้องค่าเสียหายศาลแพ่งในคดีสิ่งแวดล้อม ที่มีผู้เสียหายมากถึง 2,300 คน รวมทุนทรัพย์ 235 ล้านบาท
ส่วนแผนการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของบ่อขยะแพรกษา ในวันที่ 17 มี.ค.60 นี้ โดยศาลแพ่งจะนัดผู้ที่เกี่ยวข้อง มาพิจารณาหาข้อสรุปที่ชัดเจนถึงแนวทางปฏิบัติ และเงื่อนไขในสัญญาซึ่งผู้ประกอบการและเจ้าของที่ดิน จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ และรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทั้งหมด