วันนี้ (29 มี.ค.2560) ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และลูกสาวในคดีสินบนข้ามชาติ กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับเงินนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน นักธุรกิจภาพยนตร์สัญชาติอเมริกัน เพื่อให้ได้สิทธิในการจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ หรือบางกอกฟิล์ม เฟสติวัล ปี 2002-2007 หรือในช่วงปี พ.ศ.2545-2550 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของนางจุฑามาศเป็นความผิดฐานเรียกรับหรือรับทรัพย์สิน ประโยชน์ใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย ส่วนที่จำเลย ต่อสู้ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดจ้างนั้นก็ฟังไม่ขึ้น ส่วน น.ส.จิตติโสภา ได้ชี้แจงกรณีเงินที่ได้รับโอนเข้าบัญชีว่ามาจากการทำธุรกิจกับบริษัทเอกชน ก็ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน จึงมีคำพิพากษาจำคุกนางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการ ททท.จำนวน 66 ปี แต่เมื่อลงโทษทุกกระทงความผิดแล้ว ให้จำคุกตามโทษสูงสุด จำนวน 50 ปี และจำคุก น.ส.จิตติโสภาศิริวรรณ ลูกสาวของนางจุฑามาศ เป็นจำนวน 44 ปี และให้ริบทรัพย์สิน เป็นจำนวนกว่า 62 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด และส่งสำนวนให้อัยการ โดยอัยการสำนักงานคดีพิเศษ 2 ได้ยื่นฟ้องนางจุฑามาศและลูกสาว ต่อศาลเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2558 ในความผิด 3 ข้อหา ฐานเป็นพนักงานเรียกรับ หรือรับทรัพย์สิน ประโยชน์ใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหาย ฯ กระทำการไม่ให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเอื้อให้ผู้เข้าทำการเสนอราคานั้นเป็นผู้มีสิทธิตามสัญญาแก่หน่วยของรัฐ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 โดยมีลูกสาวของนางจุฑามาศ เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด
ด้านนายธนกร แหวกวารี ทนายความของนางจุฑามาศ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นเรื่องขอประกันตัวจำเลยทั้ง 2 คนด้วยหลักทรัพย์เงินสดวงเงินคนละ 1 ล้านบาท ยืนยันที่จะสู้คดีต่อ โดยดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลต่อไป หลังได้รับการประกันตัว