วันนี้(4 เม.ย.2560) นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า เนื่องจากแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติบงกชและเอราวัณ ที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 4 -5 ปีข้างหน้า กรมเชื้อเพลิงพลังงาน เตรียมเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมหมดอายุสัมปทานนี้ในเดือนก.ค.นี้
แต่ก่อนที่จะเปิดประมูลรอบใหม่ก็คงต้องหารือกันก่อนว่า แปลงสัมปทานปิโตรเลียมดังกล่าวนี้ จะใช้ระบบใด ระหว่างสัมปทานแบ่งปันผลผลิต (PSC) หรือสัญญาจ้างบริการ ทำให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เตรียมจัดประชุมกลุ่มย่อยหารือในเรื่องวันพรุ่งนี้ (5 เม.ย.)
นายวีระศักดิ์ ยืนยันว่า จะเปิดกว้างให้นักลงทุนไทยและต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมได้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ จะมีการจัดประชุมกลุ่มย่อย เพื่อรวมกันพิจารณาว่าพื้นที่แปลงสัมปทานปิ โตรเลียมใดเหมาะ ที่จะใช้ระบบประมูลแบบใดบ้าง ประกอบด้วย ระบบสัมปทานระบบแบ่งปันผลผลิต และระบบรับจ้างผลิต ซึ่งจะมีการเชิญผู้ประกอบการรายเดิมที่ได้สิทธิ์ และนักวิชาการด้านพลังงาน เข้าร่วมหารือ จากนั้นจะนำผลการพิจารณาเสนอต่อครม.ต่อไป
นอกจากนี้ หากต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบประมูลแหล่งปิโตรเลียมเป็นรูปแบบแบ่งปันผลผลิตและรับจ้างผลิต ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะยังคงทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกำกับดูแลเช่นเดิม ในระหว่างที่ยังไม่การจัดตั้งบรรษัทน้ำมันแห่งชาติ หรือ NOC แห่งใหม่ขึ้นมา
ส่วนการกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการประมูล ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา โดยมีแผนจะนำ TOR เสนอต่อคณะกรรมการปิโตรเลียมในช่วงปลายเดือนเม.ย. และนำเสนอต่อครม.ในเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งคาด TOR จะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนเม.ย.
ดังนั้นหากเป็นไปแผนดังกล่าวที่วางไว้ จะส่งผลให้สามารถเปิดประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติบงกชและเอราวัณ ที่กำลังจะหมดอายุลงในปี 2565-2566 ได้ตั้งแต่ช่วงเดือนก.ค.นี้ เป็นต้นไป และคาดจะได้ผลผู้ชนะของทั้ง 2 แหล่ง ได้ภายในเดือนธ.ค.นี้
ส่วนการเปิดให้เอกชนยื่นสิทธิ์สำรวจปิโตรเลียมรอบที่ 21 นั้น คงจะไม่มีการใช้คำว่ารอบที่ 21 แล้ว เพราะหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. ... ก็ถือว่าเป็นการเริ่มใช้กฎหมายใหม่ โดยกำลังดูว่าการประมูลเอราวัณ และบงกช จะถือว่าเป็นการเปิดสำรวจและผลิตรอบที่ 1 หรือไม่ แต่ก็ยังเป็น 29 แปลงตามเดิม โดยคาดว่าจะเปิดได้ หลังจากที่ได้ผู้ชนะประมูลเอราวัณและบงกช 3-4 เดือน