วันนี้ (18 เม.ย.2560) นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารทรงไทยชั้นเดียว ทำด้วยเหล็กประกอบไม้และกระจก ขนาด 6 เมตร ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ เขตพระราชวังหลวงโบราณ ใจกลางอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้จัดแสดงหุ่นจำลองสามมิติรูปแบบพระราชวังโบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมถึงจัดแสดงสื่อด้วยภาพและเสียง เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา หน่วยงานกรมศิลปากร ยืนยันว่า อาคารดังกล่าวยกเลิกการใช้กระแสไฟฟ้าไปแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2559 จึงเป็นไปไม่ได้ว่าเกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร จึงให้ตรวจสอบอย่างละเอียดถึงสาเหตุว่าในหน่วยงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีการขัดแย้งกันเองหรือขัดแย้งกับบุคคลภายนอกหรือไม่ รวมถึงประเด็นการรื้อย้ายตลาดหลังวิหารหลวงพ่อพระมงคลบพิตร ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุด้วยว่าอาจทำให้บางคนไม่พอใจและมาก่อเหตุหรือไม่
ด้าน พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้หลายประเด็นอย่างรอบด้าน คือ 1.มีคนตั้งใจจุดไฟเผา 2.มาจากการประมาท และ 3.เกิดจากกระแสไฟฟ้าย้อนเข้าระบบ โดยต้องรอเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้ามาร่วมตรวจสอบก่อน
ด้านนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่ายังไม่อยากให้ด่วนสรุปสาเหตุของเพลิงไหม้ เพราะต้องให้เวลาตำรวจทำงานอย่างรอบด้าน โดยกรมศิลปากร ยินดีให้ความร่วมมือทุกกรณี และต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้ชำนาญการด้านระบบไฟฟ้ามาประกอบด้วย
ส่วนความเสียหายนั้น เบื้องต้นประเมินว่าอยู่ที่ประมาณ 12.6 ล้านบาทและหากคดีแล้วเสร็จจะมีการก่อสร้างอาคารแบบที่ถูกเพลิงไหม้ในจุดเดิม เพื่อทำหน้าที่เดิมคือ จัดแสดงหุ่นจำลองหรือโมเดล ที่ตั้งและรูปแบบพระราชวังโบราณ
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย โบราณสถาน โบราณวัตถุ รวมถึงทรัพย์สินของรัฐ และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่ม เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมถึงให้ทำงานอย่างเข้มแข็ง โดยเน้นย้ำให้ดำเนินการทันทีในจังหวัดที่มีอุทยานประวัติศาสตร์