น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาทุเรียนยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นต้นฤดูและตลาดจีนมีความต้องการมาก ประกอบกับการบริโภคในประเทศ นอกจากนี้ ยังมีผลไม้ชนิดชนิดอื่น เช่น เงาะ มังคุด ที่เกษตรกรขายได้ราคาดี ถือว่าเป็นปีทองของชาวสวนผลไม้
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ปริมาณผลผลิตในปีนี้จะมีมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะทุเรียน จึงขอความร่วมมือชาวสวนอย่าขายทุเรียนอ่อน เพราะมีความผิดตามกฎหมายและกระทบภาพลักษณ์ประเทศ มีโทษตามกฎหมายอาญา จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีโทษตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ จะเร่งประสานตลาดสดและห้างสรรพสินค้า เพื่อกระจายผลผลิตรองรับความต้องการของผู้บริโภค พร้อมจัดงานจำหน่ายผลไม้ไทย ระหว่างวันที่ 4 - 7 พ.ค.นี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคผลไม้ไทย
สำหรับปริมาณผลผลิตผลไม้ภาคตะวันออกปีนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดการณ์ว่ามีพื้นที่ปลูกผลไม้ 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง 669,717 ไร่ เพิ่มจากปี 2559 ที่ 664,874 ไร่ โดยทุเรียน เงาะ เเละมังคุด มีผลผลิตเพิ่มขึ้นทั้งหมด ยกเว้นลองกองที่ผลผลิตลดลง และจะออกมากช่วงปลายเดือนพฤษภาคมต่อเนื่องถึงกลางเดือนมิถุนายนนี้