ผู้สนับสนุนนายเอมมานูเอล มาครง หลายพันคนซึ่งรวมตัวลุ้นผลคะแนนกันอยู่ในย่านใจกลางกรุงปารีสต่างเฉลิมฉลองแสดงดีใจหลังหลังผลการหยั่งคะแนนหน้าคูหาเลือกตั้งชี้ว่านายมาครงจะได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดเหนือนางมารีน เลอ เปน ผู้สมัครคู่แข่งจากพรรคการเมืองขวาจัดฟรงต์ นาซียอนนาล ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยคาดว่า นายมาครงจะได้คะแนนถึงร้อยละ 65.5 ทิ้งห่างนางเลอ เปน ที่ได้คะแนนร้อยละ 34.5
ผลการเลือกตั้งที่ออกมาทำให้นายมาครงสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นว่าที่ผู้นำที่อายุน้อยที่สุดของประเทศ ด้วยวัยเพียง 39 ปี นอกจากนี้นายมาครงยังจะเป็นประธานาธิบดีคนแรกของฝรั่งเศสที่ไม่ได้มาจาก 2 พรรคใหญ่ที่เป็นขั้วการเมืองหลักนับตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งยุคปัจจุบันเมื่อปี พ.ศ.2501
ด้านนายมาครงประกาศกับผู้สนับสนุนหลังทราบผลคะแนนว่า จะต่อสู้กับพลังแห่งการแบ่งแยกที่กำลังคุกคามฝรั่งเศสอยู่ในขณะนี้ พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะสร้างความสามัคคีในชาติ รวมทั้่งป้องกันและปกป้องยุโรปและจะทุ่มเทการทำงานเพื่อประเทศชาติ ขณะที่ทีมหาเสียงของนายมาครงเปิดเผยว่า นายมาครงได้โทรศัพท์พูดคุยกับนางเลอ เปน อย่างจริงใจหลังทราบผลเลือกตั้ง
ด้านนางเลอ เปน ได้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน 11 ล้านคนที่ลงคะแนนให้เธอและว่าผลการเลือกตั้งชี้ให้เห็นการแบ่งแยกระหว่างกลุ่มผู้รักชาติกับกลุ่มสากลนิยม พร้อมทั้งเรียกร้องให้มีการผนึกพลังการเมืองใหม่และได้มุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งสมาชิกสภาที่กำลังจะมาถึง นอกจากนี้นางเลอ เปน ยังแสดงความปรารถนาดีให้นายมาครงประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับปัญหาท้าทายมากมายที่จะต้องเผชิญ
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ซึ่งกำลังจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งกล่าวแสดงความยินดีกับนายมาครงและประกาศว่าผลการเลือกตั้งชี้ให้เห็นว่าชาวฝรั่งเศสต้องการสร้างความเป็นหนึ่งเดียวให้กับชาติ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมพ์ ผู้นำสหรัฐฯ โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์แสดงความยินดีกับนายมาครงและตั้งตารอที่จะได้ทำงานร่วมกับผู้นำฝรั่งเศสคนใหม่