วันนี้(11 พ.ค.2560) ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุระเบิดห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 61 คน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมอให้ พลอากาศเอกเกษมอยู่สุข หัวหน้าสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางไปมอบดอกไม้และสิ่งของพะราชทาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ รวมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้แก่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลปัตตานี และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
ชาวปัตตานี รวมพลังต่อต้านความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงาน ตัวแทนประชาชนจากหลายอำเภอ เดินทางมาให้กำลังใจผู้ประกอบการ และผู้ได้รับผลกระทบจากว่า เหตุระเบิดห้างบิ๊กซี โดยมีการแสดงพลังรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบ เนื่องจากเห็นว่า การก่อเหตุครั้งนี้พุ่งเป้าหมายโดยตรงมาที่ประชาชน ซึ่งไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับความเดือดร้อน จึงออกมาแสดงพลังเพื่อประนามการกระทำที่เกิดขึ้น
ขณะที่บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี หลังเจ้าหน้าที่เข้าเก็บวัตถุพยาน วันนี้ได้เปิดให้เจ้าของร้านค้าต่างๆ และพนักงานของบิ๊กซีบางส่วนได้เข้าไปสำรวจความเสียหายภายในร้านของตัวเองซึ่งเช่าพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในการค้าขาย เช่นเดียวกับเจ้าของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ถูกเพลิงไหม้จากแรงระเบิดก็เริ่มเข้าสำรวจความเสียหายของยานพาหนะของตัวเอง ก่อนจะลงทะเบียนเพื่อขอรับเงินเยียวจากรัฐ
คุมเข้มความปลอดภัยสกัดก่อเหตุซ้ำ
ขณะที่บรรยากาศการรักษาความปลอดภัย บริเวณด่านตรวจใกล้กับห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์อย่างละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดให้สามารถใช้งานได้ตามปกติ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรงซ้ำ ส่วนในเส้นทางสายรองได้มีการเพิ่มด่านตรวจลอย เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มแนวร่วม และในพื้นที่เขตเมืองได้วางกำลังดูแลความปลอดภัยของชุมชนเสี่ยงเพื่อป้องกันการก่อเหตุด้วยระเบิดขนาดเล็ก หรือระเบิดเพลิง
นอกจากนี้การติดตามตัวคนขับรถยนต์ที่นำมาก่อเหตุขณะนี้ เจ้าหน้าอยู่ระหว่างการกระจายกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ซึ่งคาดว่าเป็นพื้นที่ที่นายนุสน ขจรคำ คนขับรถหายตัวไป ก่อนจะถูกปล้นรถนำมาประกอบระเบิด โดยนางสาวิตรี ขจรคำ ภรรยาผู้สูญหาย บอกว่าขณะนี้ห่วงใยสามีอย่างมาก แต่ภาวนาให้สามียังมีชีวิตอยู่
แกะรอยหาความเชื่อมโยงผู้ก่อเหตุ
ส่วนความคืบหน้าในการติดตามผู้ก่อเหตุการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุ 4 คน โดย 2 คน เป็นคนนำรถประกอบระเบิดขับเข้ามาจอด ส่วนอีก 2 คนขี่รถจักรยานยนต์มาจอดรอด้านหน้าห้าง จากข้อมูลพบว่า ผู้ก่อเหตุมีความเชื่อมโยงกับมือระเบิดที่เคยถูกออกหมายจับแล้ว 2 คน คือ นายอับดุลเลาะ สาแม หมายจับคดีระเบิดร้านอาหารมิดติ้ง ติดกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษจังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2559 และนายฮาริม ดอเลาะ คดีระเบิดโรงแรมเซาท์เทิร์นวิวปัตตานี เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 2559
นอกจากนี้อาจจะเชื่อมโยงกลุ่มของ นายเสรี แวมามุ และนายบูคอลี หลำโซ๊ะ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งทั้งสองคนอาจจะเข้ามาร่วมก่อเหตุในการปล้นรถกระบะของ นายนุสน ขจรดำ ชาวจังหวัดยะลาด้วย เบื้องต้นศาลได้อนุมัติหมายจับนายมะกอเซ็ง หม้าแอ้ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ขับรถกระบะที่ใช้ประกอบระเบิดมาจอดหน้าห้าง โดยพบว่ามีหมายจับติดตัวในคดีอุกฉกรรจ์ถึง 3 หมายจับ