วันนี้ (22 พ.ค.2560) นายชาตินันท์ เลเชอร์ ชาว ต.สะหลี อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ยังยิ้มได้บ้างเมื่อเห็นลูกสาววัย 11 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้หอพักหญิงของมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ ในรั้วเดียวกับโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เมื่อ 1 ปีก่อน ยังสามารถเล่นสนุกกับเพื่อนๆได้ แม้จะมีปัญหาด้านการมองเห็น
นายชาตินันท์ กล่าวว่าหลังจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนั้น ลูกสาวของเขาได้รับบาดเจ็บ แพทย์ลงความเห็นว่าเป็นผู้พิการทางสายตา ทำให้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และสร้างความกังวลให้ผู้เป็นพ่ออย่างมาก แต่นายชาตินันท์ไม่คิดจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ เพราะต้องการใช้เวลาทั้งหมดดูแลลูกสาว
“ตอนนี้น้องเริ่มเข้าวัยเจริญเติบโต มีรอบเดือนแล้ว เท่าที่ดู หนักใจแทนในเรื่องการช่วยเหลือตัวเอง น้องไม่เหมือนกับเด็กปกติทั่วไป ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุลูกช่วยเหลือตัวเองได้” นายชาตินันท์ กล่าว
แตกต่างจากครอบครัวของนายจารุเกียรติ ผาด่าน ที่สูญเสียลูกสาว วัย 8 ปี ไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น ซึ่งแม้จะได้รับเงินช่วยเหลือจากหลายภาคส่วน แต่ไม่อาจทดแทนชีวิตที่สูญเสียไปได้
นายจารุเกียรติ เล่าว่า ได้ใช้เงินช่วยเหลือสร้างบ้านและซื้อรถไถคันใหม่ เป็นตัวแทนถึงลูกสาวที่จะอยู่กับครอบครัวไปชั่วชีวิต และต้องการฟ้องร้องดำเนินดคีทางอาญากับมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ เนื่องจากเห็นว่าเหตุไฟไหม้ที่เกิดขึ้นมาจากความประมาท
“โรงเรียนก็ยังไม่อะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ลูกเราเสียชีวิต เป็นสิ่งที่ทำให้เราต้องช็อค และสูญเสีย ทำให้เราสะดุด ทำให้เราแย่ไปเยอะเลย แต่เหมือนกับว่าโรงเรียนเขาปกติ” นายจารุเกียรติ กล่าว
นายสมชาติ พิพัฒน์ธราดล เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย มูลนิธิกระจกเงา องค์กรภาคประชาชนที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้สูญเสียจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนั้น ระบุว่าปัจจุบัน มีผู้ปกครองของเด็กที่เสียชีวิต 2 ครอบครัว ต้องการดำเนินคดีทางอาญากับมูลนิธิพันธกิจสุขสันต์ในฐานประมาทจนทำให้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งผู้เสียหายรายอื่น ๆ ยังไม่พร้อมที่ดำเนินดคีกับมูลนิธิ
“ถ้าสอบถามเขาก็อยากฟ้องร้องดำเนินคดีนะครับ แต่ว่ามีความไม่พร้อมหลายด้าน และบางครอบครัวอยู่ระหว่างตัดสินใจ หรือบางครอบครัวไม่อยากจะวุ่นวาย ไม่อยากเสียเวลากับตรงนี้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้มีความรู้ทางกฎหมาย และไม่ได้เป็นคนที่มีฐานะมากมาย เพราะฉะนั้นเขาเลือกที่จะเลือกให้เรื่องมันจบ อันนี้เป็นความประสงค์ของเขาเอง ทางมูลนิธิก็เข้าไปสนับสนุนให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ” นายสมชาติ กล่าว
ขณะที่มูลนิธิพันธกิจสุขสันต์และโรงเรียนพิทักษ์เกียรติวิทยา ให้ข้อมูลว่า ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เพลิงไหม้แล้ว และทำหน้าที่เป็นผู้ประสานความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ มาโดยตลอด ส่วนเงินบริจาคที่ประชาชนร่วมกันบริจาคให้กับครอบครัวผู้เสียชิวิตและผู้บาดเจ็บนั้นโรงเรียนและมูลนิธิ ไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบแต่อำเภอเวียงป่าเป้าเป็นผู้ดูแลเงินดังกล่าว