วันนี้ (16 มิ.ย.2560) กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จับกุมชาวจีน 3 คน ได้พร้อมของกลางเป็นซิมโทรศัพท์มือถือ เครือข่าย AIS, DTAC และ True move จำนวน 347,200 หมายเลข และขณะนี้อยู่ระหว่างการรอขยายผลว่าซิมโทรศัพท์ที่ยึดเป็นของกลาง มีที่มาจากร้านค้าหรือแหล่งใด
ช่วงเช้าวันนี้ ตัวแทนบริษัท เอไอเอส ส่งพนักงานมาเก็บข้อมูลซิมโทรศัพท์เกือบ 30 คน เพื่อตรวจสอบสแกนส่งข้อมูลบาร์โค้ทไปที่ส่วนกลางที่กรุงเทพมหานคร โดยเอไอเอสเป็นค่ายมือถือรายสุดท้ายที่มาเก็บข้อมูลซิมที่ตำรวจยึดเป็นของกลาง จำนวน 112,200 เบอร์
ขณะที่ดีแทค วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่มีพนักงานเก็บข้อมูลซิมโทรศัพท์ หลังจากเมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.) ดีแทคใช้เวลาเก็บข้อมูลได้เพียง 16,000 หมายเลขเท่านั้น จากจำนวนซิมดีแทคทั้งหมดที่ยึดเป็นของกลาง 104,000 หมายเลข โดยวันนี้เพิ่มพนักกงาน 6 คน จากเมื่อวานนี้ มีพนักงานเก็บข้อมูล 3 คน
ส่วนบริษัท ทรูมูฟเอช ได้ส่งพนักงานมาเก็บข้อมูลซิมไปแล้วบริษัทแรก เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ซึ่งมีจำนวนซิมโดยยึดเป็นของกลางไว้ตรวจสอบมากที่สุด 131,000 เบอร์
พ.ต.อ.วัสสพันธ์ ศิริกุลกมลฉัตร ผกก.สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เปิดเผยว่า แนวทางสืบสวนคดีนี้ ยังต้องรอค่ายมือถือตรวจสอบเส้นทางซิมโทรศัพท์ของทั้ง 3 ค่าย รวมประมาณ 347,200 หมายเลขว่ามีที่มาจากที่ไหน เพื่อจะนำมาขยายการสืบสวนสอบสวน หลังจากจับกุมชาวจีน 3 คน ที่อ้างว่านำซิมโทรศัพท์เหล่านี้มาสมัครโปรแกรมวีแชท ซึ่งเป็นโปรแกรมยอดนิยมของคนจีน เพื่อนำไอดีวีแชท ไปสมัครในเพจสินค้าต่างๆ ของประเทศจีน เพื่อปั่นยอดวิว, แชร์, ไลค์
"สอบถามล่ามที่ช่วยแปลการให้ข้อมูลของชาวจีนที่เราจับได้ บอกว่า 1 ซิม ใช้สมัครวีแชทได้ 1 ครั้ง และไอดีวีแชท ใช้กดไลค์, แชร์ ได้ไอดีเพจละครั้ง เมื่อใช้เสร็จแล้ว เบอร์เหล่านี้ ก็จะทิ้งไป เขาบอกมาแบบนี้แต่ทางสืบสวนก็ต้องทำต่อไป"
สำหรับการตรวจสอบเครื่องโทรศัพท์ 500 เครื่อง ขณะนี้ มีตัวแทนผู้จำหน่ายโทรศัพท์ไอโฟนเดินทางไปแสดงตัว พร้อมยืนยันว่าเป็นเครื่องแท้ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่านำเข้าจากประเทศใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับเทคโนโลยี (ปอท.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมนำอุปกรณ์และรถโมบายเคลื่อนที่ของ ปอท.มาตรวจสอบเชิงลึก เกี่ยวกับกระบวนการใช้งานของคนจีนที่โดนจับว่า เป็นมีประเด็นใด ที่เกี่ยวข้องกับการนำไปปั่นเพจต่างๆ ที่เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ของประเทศไทยหรือไม่
ขณะที่สำนักข่าวกรอง สำนักนายกรัฐมนตรีและตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลเรื่องนี้เช่นกัน เพื่อสืบสวนดูว่าจะเกี่ยวข้องกับประเด็นความมั่นคงหรือไม่ ส่วนในวันพรุ่งนี้ ตัวแทนจากสำนักงาน กสทช. พร้อมด้วยตัวแทนบริษัทค่ายมือถือทั้ง 3 บริษัทและฝ่ายกฎมาย จะเดินทางมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อติดตามประเด็นนี้ และประชุมร่วมกับตำรวจตามที่ตำรวจขอข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้หากซิมที่พบว่า 347,200 หมายเลข ถูกเบอร์ใช้งานโดยไม่ลงทะเบียนแสดงตัวบุคคล ตามที่ กสทช.กำหนด ทางค่ายมือถือจะมีความผิดและมีโทษทางปกครอง ซึ่งมีตั้งแต่ ตักเตือน, ปรับเงิน, พักใช้ใบอนุญาต จนถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต
ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอส ได้ทดลองโทรศัพท์ไปตามเบอร์โทรศัพท์ 3 เลขหมาย ที่มีหมายเลขแปะอยู่ที่ซิม ปรากฏว่าทั้ง 3 เลขหมาย มีเสียงตอบรับจากระบบว่า "ขอโทษค่ะ ไม่มีเสียงตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก กรุณาฝากข้อความ" ซึ่งแตกต่างจาก เลขหมายที่ปิดใช้บริการไปแล้ว และผู้สื่อข่าวได้ทดลองไปที่เลขหมายที่ปิดบริการ จะได้ยินเสียงตอบรับว่า "เลขหมายที่ท่านเรียกยังไม่เปิดใช้บริการ"