วันนี้ (19 มิ.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำนวนซิมโทรศัพท์ที่เป็นของกลาง มีทั้งหมด 347,000 เบอร์ ตำรวยังคงเก็บไว้ที่สถานีตำรวจภูธรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาในคดีจับกุมคนจีน 3 คน เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์อีก 500 เครื่อง ภายในบ้านหลังหนึ่ง อำเภออรัญประเทศ ซึ่งกลุ่มคนจีนเช่าเป็นสถานที่ปฏิบัติการและตามคำให้การอ้างกับตำรวจว่า ใช้ปั่นยอดวิว ยอดแชร์ ยอดไลค์ ตามเพจสินค้าของคนจีน ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังรอข้อมูลจากค่ายมือถือเพื่อขยายผลการสอบสวน
ล่าสุดวันนี้ นายพิชัย สุวรรณกิจบริหาร ผู้อำนวยการสำนักกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคม กสทช. เปิดเผยกับไทยพีบีเอสว่า ค่ายมือถือส่งข้อมูลรายงานผลการตรวจสอบมาให้แล้ว เกี่ยวกับจำนวนเบอร์ที่ถูกเปิดใช้งานจากจำนวนซิมของกลางทั้งหมด
เครือข่ายสัญญาณเอไอเอส พบเบอร์ถูกเปิดใช้งานแล้ว 4,000 เบอร์ จากเบอร์ของกลางทั้งหมด 112,200 เบอร์
ค่ายดีแทค พบถูกเปิดใช้งานแล้ว 40,000 -50,000 เบอร์ จากเบอร์ของกลางทั้งหมด 104,000 เบอร์
ส่วนทรูมูฟ มีเบอร์ของกลาง 131,000 เบอร์ แต่เป็นบริษัทเดียวที่ยังไม่ส่งรายงานผลตรวจสอบไปให้ กสทช.
สำหรับเส้นทางของซิมโทรศัพท์ทั้งหมดมาจากไหน กสทช.ยังต้องให้เวลาทั้ง 3 บริษัท ตรวจสอบและทำรายละเอียด แต่วันนี้จะส่งสรุปรายงานเบื้องต้นส่งให้เลขาธิการ กสทช.
“พบว่ามีซิมที่มาจากต่างประเทศ เรื่องนี้ก็เหมือนการค้าขายทั่วไป ซิมไทยไปขายฝั่งนู้น ซิมฝั่งนู้นมาขายในไทย ส่วนการเปิดใช้งานทั้งหมด ถ้าเป็นซิมของไทยยังไงก็ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของ กสทช. และ ณ ข้อมูลตอนนี้พบว่ามีการจดทะเบียนและก็ทำตามประกาศ กสทช.ที่กำหนดไว้ในเรื่องของการแสดงตน แต่ข้อมูลในเชิงลึกอาจจะต้องตรวจสอบอีกที” นายพิชัย กล่าว
สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มคนจีน ทางผู้ให้เช่าบ้านให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า มีผู้หญิงไทยติดต่อแจ้งว่า คนจีนจะเข้าพักตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้ขอหลักฐานเป็นหนังสือเดินทางของคนจีน คิดค่าเช่าบ้านเดือนละ 15,000 บาท มีสัญญา 6 เดือน โดยคนจีนอ้างว่าจะอยู่ไม่นานต้องย้ายไปที่อื่น แต่หลังจากเข้าอยู่แล้ว ปรากฏว่ามีเพื่อนชาวจีนมาอยู่เพิ่มเติม โดยผู้ให้เช่าบ้านไม่ทราบว่ากลุ่มจีน ใช้เป็นสถานที่ปั่นยอดวิวเพจสินค้า และไม่เคยเห็นอุปกรณ์มากขนาดนี้ จนเมื่อตำรวจเข้าจับ แต่ยอมรับว่า เคยเห็นการส่งกล่องพัสดุมาให้คนจีนเป็นระยะ
“ เห็นว่าเป็นกล่องพัสดุธรรมดา สีน้ำตาล มีน้ำหนักเบา ส่งมาทีค่อนข้างเยอะ 2 กล่องบ้าง บางที 3-5 กล่อง เรากลัวมีปัญหา เลยบอกให้เขารับของเองละกัน เพราะเราไม่รู้ว่าข้างในเป็นอะไร และเขาเป็นคนต่างชาติด้วยไง เราต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อน เดี๋ยวจะหาว่าเราร่วมมือกับเขา” เจ้าของบ้านเช่า กล่าว
สำหรับแนวทางการสอบสวนของตำรวจ ขณะนี้แจ้งข้อหาประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต หลบเลี่ยงภาษีนำเข้าเครื่องโทรศัพท์ และมีเครื่องวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต