"อภิสิทธิ์" ติงรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระวังซ้ำรอยโครงการโฮปเวลล์

เมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.2560) นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรฐมนตรี กล่าวกรณีรถไฟฟ้าความเร็วสูงเส้นทางกรุงเทพฯ-โคราช ว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ-โคราชเท่านั้น แต่ต้องการเชื่อมต่อไปกับนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road หรือโอบีโออาร์) ของจีน ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อการขนส่งด้วยรถไฟไปถึงมาเลเซียและต้องเชื่อมต่อกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการขนส่งของอนุภูมิภาคด้วย ทั้งนี้ ในความคิดรัฐบาลไม่ใช่แต่เชื่อมจีนแต่ต้องการเชื่อมโลก รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจขับเคลื่อนโครงการนี้ให้ได้

นายสมคิด ยังกล่าวอีกว่า ไทยไม่ได้ยกผลประโยชน์ให้กับจีนแต่อย่างใด โดยโครงการที่เกิดขึ้นมูลค่า 180,000 ล้านบาท สัดส่วน 40,000 ล้านบาท ที่ให้วิศวกรจีนเข้ามาดำเนินการได้ เป็นงานระบบราง รวมทั้งการจ้างที่ปรึกษาและการออกแบบ ขณะที่มูลค่า 140,000 ล้านบาทจะให้คนไทยทำ ขณะที่ที่ดินทั้ง 2 ข้างก็ยังเป็นแผ่นดินไทยจะให้ใครเข้ามาร่วมลงทุนก็ได้ เพื่อสามารถที่จะพัฒนาพื้นที่ได้ในอนาคต

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า ที่ทำอยู่ขณะนี้ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม ซึ่งโครงการรถไฟไทย-จีนที่เริ่มในสมัยที่ตนเป็นรัฐบาล เป็นแนวคิดสร้างรถไฟภูมิภาค คือจะวิ่งจากประเทศจีนตอนใต้ ไปถึงประเทศสิงคโปร์ โดยแนวทางที่เหมาะสม คือให้ทุกฝ่ายทั้งประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนร่วมทุน และร่วมรับผิดชอบบริหารด้วยกัน ไม่ใช่แค่ว่าไทยอยากมีรถไฟ แล้วเอาใครก็ได้มาสร้าง เพราะว่ารถไฟต้องเชื่อมกันหมดทั้งภูมิภาค

แต่ไม่ทราบเพราะเหตุใด รัฐบาลทำโครงการนี้เหมือนว่าเป็นของไทยโดยให้ต่างชาติมาสร้าง จึงติดขัดทางข้อกฎหมาย อาทิ เรื่องของวิชาชีพ ถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งไม่มีหลักประกันใดๆ ที่สำคัญการจัดซื้อจัดจ้างกลายเป็นว่า ไม่มีกฎกติกาใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากการพิจารณาตามดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่อันตรายมาก และระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ที่บ้านกลางดง จะมีใครไปโดยสาร ซึ่งก็ระวังอย่าให้เป็นแบบโครงการโฮปเวลล์