วันนี้ (6 ก.ค.2560) นายศุภชัย สมเจริญ ประธานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุถึงช่องทางในการยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ 6 ประเด็นเห็นแย้งต่อร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ตาม ที่ กกต.ส่งความเห็นแย้ง ทั้งมาตรา 210 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน และ ตาม พ.ร.บ.วิธิพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ
นายศุภชัย ระบุว่าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นเห็นแย้งและทำให้ร่างกฎหมายลูกว่าด้วย กกต.ต้องตกไป กกต.ทั้ง 5 คน จะยังไม่พ้นจากตำแหน่งทันที เนื่องจากว่ามีกฎหมายพิเศษหรือคำสั่งตามมาตรา 44 ของ คสช.รองรับไว้ และยังมีกฎหมายฉบับเดิมที่ยังบังคับใช้อยู่ พร้อมย้ำว่าไม่วิตกกังวลหากให้พ้นจากหน้าที่
ประธาน กกต.ปฏิเสธว่าการตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รัฐมนตรีของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ตามที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องไว้ เป็นการต่อรองทางการเมืองกรณีที่ กกต.จะถูกเซ็ตซีโร่ ยืนยันเป็นการทำตามหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และไม่ได้ยื้อแต่เพียงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบและขณะนี้ยังไม่เห็นประเด็นแย้งของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 3 ประเด็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และยังคงยืนยันในส่วนของ กกต.ยังเป็นมติเดิมที่เห็นว่าไม่มีประเด็นใดขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ
ขณะที่การยกระเบียบและร่างประกาศตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองที่ จ.ชลบุรี ยังมีเสียงสะท้อนจากฝ่ายปฏิบัติว่าในระบบการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือ ไพรมารีโหวตอาจยังมีปัญหา ประธาน กกต.ระบุว่า ในการสัมมนาครั้งนี้เพื่อหารือถึงทางออกของปัญหา และแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกับ ร่างกฎหมายลูกว่าด้วยพรรคการเมือง ยืนยันไม่ได้วางยาการจัดเลือกตั้ง เชื่อด้วยประสบการณ์กว่า 19 ปีของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกต.จะสามารถจัดการเลือกตั้งตามที่กฎฟมายลูกกำหนดไว้
แม้นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.จะมองว่าการให้หัวหน้าพรรคลงรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อและตัดสิทธิการลงรับสมัครแบบเขตขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่ประธาน กกต.มองว่าในรัฐธรรมนูยไม่ได้กำหนดไว้ และเป็นเพียงความเห็นของแต่ละคน