วันนี้ (1 ส.ค.2560) นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงการคาดการณ์สถานการณ์น้ำอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 6 ส.ค. ซึ่งยังไม่มีพายุเข้าใกล้ประเทศไทย และจากการคาดหมายลักษณะอากาศ ช่วงระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 3 ส.ค. มีปริมาณฝนน้อยลงเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออก ยังมีปริมาณฝนตกปานกลางถึงฝนตกหนัก
ส่วนในวันที่ 4 - 6 ส.ค. ให้จับตาภาคใต้และภาคเหนือ มีปริมาณฝนมากขึ้นจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทั้งนี้ โดยสถิติพายุมักเข้าประเทศไทยช่วงเดือน ส.ค. - ก.ย. ประมาณ 1-2 ลูก สำหรับแผนรับมือ ได้ให้ทุกพื้นที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาวจำนวนมากทำให้ต้องเพิ่มการระบายน้ำออกจากเขื่อนลำปาวตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. ส่งผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณท้ายเขื่อนลำปาวใน 4 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาฬสินธุ์, จ.ร้อยเอ็ด, จ.ยโสธร และ จ.อุบลราชธานี ได้เตรียมความพร้อมประสาน 4 จังหวัดดังกล่าว เตรียมพร้อมรับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
สถานการณ์อุทกภัยในภาพรวมพบว่า ขณะนี้ยังคงมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ 10 จังหวัด ส่วนใหญ่เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยแนวทางการช่วยเหลือ จะเน้นเรื่องการดำรงชีพ การดูแลประชาชนในจุดพักพิงพร้อมจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมจัดทีมแพทย์พยาบาลเข้าไปดูแลรักษาสุขภาพ
ส่วนประชาชนที่ไม่ได้อพยพออกนอกพื้นที่ก็จะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลพร้อมจัดหาอาหาร น้ำดื่มและถุงยังชีพแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยด้วย ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายแล้วก็จะมีการเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหายในพื้นที่เบื้องต้น เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง