เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.2560) น.ส.กุ้งนาง น่าชม อายุ 17 ปี พร้อมด้วยนางคำผง ทองเล็ก อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นยาย เข้าแจ้งความกับตำรวจสถานีตำรวจภูธรศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่า ต้องการสมุดเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยบิ๊กซี ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ชื่อบัญชี "เด็กหญิงกุ้งนาง น่าชม" ซึ่งมียอดเงิน 1 ล้านบาท เพื่อต้องการเบิกเงินใช้ เนื่องจากสมุดฝากเงินอยู่กับผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
ต่อมา นายทิวา วัชรกาฬ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ประสานไปยังผู้สื่อข่าวที่ถูกอ้างถึง คือนายสายชล หนูแดง ก่อนที่นายสายชลจะมอบสมุดบัญชีให้กับ น.ส.กุ้งนาง โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พนักงานสอบสวน และสื่อมวลชนเป็นสักขีพยาน
นายสายชล เปิดเผยว่า สาเหตุที่เปิดบัญชีขึ้นมาก็เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่ น.ส.กุ้งนาง โดยเป็นบัญชีแบบเงินฝากประจำ 5 ปี ซึ่ง น.ส.กุ้งนาง สามารถเบิกจ่ายได้คนเดียว ส่วนสาเหตุตัวเองต้องถือสมุดบัญชี เนื่องจากไม่มีใครยอมถือ พร้อมยืนยันไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง
ก่อนหน้านี้ น.ส.กุ้งนาง ได้รับเงินบริจาคประมาณ 2 ล้านบาท ส่วนหนึ่งไว้ใช้ดูแลมารดา ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยสมาชิกเทศบาลฯ เก็บไว้ และอีกบัญชี นายสายชลเป็นผู้เก็บ ต่อมา เงินในบัญชีสมาชิกเทศบาลฯ ใกล้หมด น.ส.กุ้งนาง จึงติดนายสายชลเพื่อขอคืน แต่นายสายชลยังไม่มีเวลานำมาคืน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน