วันนี้(18 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟชบุ๊กของโครงการปล่อยนกกระเรียนพันธุ์ไทยคืนสู่ธรรมชาติ องค์การสวนสัตว์ ได้เผยแพร่ความคืบหน้าของนกกระเรียนพันธุ์ไทย โดยเผยข่าวดีเมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า มีลูกนกระเรียนพันธุ์ไทย จำนวน 2 ตัว ที่เกิดใหม่เมื่อวันที่ 13 ส.ค.นี้ และ 15 ส.ค.นี้ ในกรงเพาะขยายพันธุ์ บริเวณหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยแสงเหนือ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการอวดโฉมหลังวันแม่เพียงแค่ 1 วัน
ต่อมาวันที่ 17 ส.ค.นี้ ยังได้ภาพของลูกนกกระเรียนพันธุ์ไทยในธรรมชาติรังแรกของปี 2560 ฟักแล้ว เมื่อวันที่ 2 ส.ค.นี้ จำนวน 2 ตัว อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จากแม่พันธุ์ ID 236 และพ่อพันธุ์ ID 224 คู่เมล่อน ปัจจุบัน ยังมีชีวิตรอด 2 ตัว และอายุประมาณ 2 สัปดาห์
ก่อนหน้านี้องค์การสวนสัตว์ ได้นำพ่อแม่พันธุ์นกกระเรียนที่ได้จากการเพาะเลี้ยงจากกรงในสวนสัตว์นครราชสีมา ไปปล่อยคืนธรรมชาติ นำพื้นที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2555 ทดแทนการสูญพันธ์จากธรรมชาติ จนช่วงปีนี้ พบนกสามารถทำรังวางไข่ และมีลูกตามธรรมชาติได้แล้ว
สำหรับนกกระเรียนไทยเป็นสัตว์ป่าสงวนหนึ่งใน 16 ชนิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 สถานะภาพปัจจุบันจัดเป็นสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติแล้ว ประเทศไทยพบนกกระเรียนในธรรมชาติครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2511 ที่บริเวณชายแดนติดกับกัมพูชา
จนกระทั่งมีข่าวดีว่ากับทีมวิจัยในปี 2559 มีรายงานพบนกกระเรียนพันธุ์ไทยที่ปล่อยคืนถิ่น สามารถจับคู่ ทำรัง วางไข่ และมีลูกนกเกิดในธรรมชาติตัวแรกในนาข้าว ซึ่งมีภาพถ่ายลูกนกในช่วงเดือน ก.ย.2559 ในแปลงนาข้าวของนางเกษร บุญอารีย์ ในต.สะแกโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จึงตั้งชื่อ “นาข้าว” ส่วนอีกตัวชื่อ “มะพร้าว” เกิดเดือน ส.ค.2559
และล่าสุดมีลูกนกที่ปล่อยตามธรรมชาติในปี 2560 อีก 2 ตัว และในกรงเลี้ยงอีก 2 ตัวรวมเป็น 4 ตัวสำหรับช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้นักวิชาการ เสนอปลด "นกกระเรียนพันธุ์ไทย"พ้นบัญชีสูญพันธุ์ หลังเจอลูกนกเกิดใหม่ 2 ตัว ครั้งแรกรอบ 50 ปี