วันนี้ (28 ส.ค.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพการโรยตัวของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช.จากระเบียงชั้น 3 ของโรงแรมเอสซีปาร์ค เพื่อหนีการควบคุมตัวของตำรวจเมื่อปี 2553 สะท้อนได้ดีถึงการใช้โรงแรมเอสซีปาร์ค เป็นฐานที่มั่นของกลุ่มคนเสื้อแดงในช่วงนั้น เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าคนในครอบครัวชินวัตร เคยถือหุ้นโรงแรมแห่งนี้มากกว่าร้อยละ 80
ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงแกนนำพรรคไทยรักไทย และต่อเนื่องมาถึงพรรคเพื่อไทย ก็เข้าใช้บริการโรงแรมแห่งนี้ พร้อมกับจัดกิจกรรมทางการเมืองบ่อยครั้ง
การนัดพบบุคคลใกล้ชิดของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันที่ 23 สิงหาคม รวม 14 คน ก่อนที่จะหายตัวไป จึงทำให้ตำรวจต้องเร่งตรวจสอบบุคคล ที่พบว่าร่วมหารือกับนางสาวยิ่งลักษณ์ในวันนั้นเช่น
1.นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
2.นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ หรือ แซนด์ หลานสาวของนางสาวยิ่งลักษณ์ และคณะทำงานต่างประเทศของพรรคเพื่อไทย
3.นายพิชิต ชื่นบาน ทนายความ
4.พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย ผู้กำกับฝ่ายวิจัยและพัฒนา ศูนย์พัฒนาด้านการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล นายตำรวจติดตามนางสาวยิ่งลักษณ์
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า ล่าสุดได้สอบสวน พ.ต.อ.วทัญญูแล้ว ซึ่งไม่ได้มีการต้้งคณะกรรมการสอบ ยอมรับ พ.ต.อ.วทัญญู ให้ข้อมูลบางประการที่เป็นประโยชน์ และเป็นเบาะแสในการดำเนินการต่อ แต่เนื้อหาไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนการไปอารักขานางสาวยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมาถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบ
ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ กรณีมีข้อมูลว่ามีกลุ่มบุคคล 14 คน ที่ไปพบนางสาวยิ่งลักษณ์ที่โรงแรมเอสซีปาร์คก่อนการหลบหนี ทราบว่าเป็นการพบปะตามธรรมดา เพราะช่วงนั้นนางสาวยิ่งลักษณ์ได้รับการประกันตัว ก่อนมีคำพิพากษาวันที่ 25 สิงหาคม