วันนี้ (30 ส.ค.2560) จากกรณีชาวต่างชาติ พบจระเข้วายน้ำทะเล ชายหาดบางเทา จ.ภูเก็ต จากนั้นจึงนำโดรนไปถ่ายภาพไว้ และคลิปที่เห็นชัดเจนว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวน่าจะถึง 3 เมตร ทั้งนี้ นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมหน่วยงานกรมประมง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่พบจระเข้ พบว่าริมหาดหาดเลพัง อยู่ตรงกลางระหว่างหาดบางเทา และคลองลายัน และได้รับยืนยันว่าวันที่ 24 -25 ส.ค.ที่ผ่านมา มีพนักงานและนักท่องเที่ยวเห็นจระเข้ตัวนี้อยู่ในระยะไกล จึงไม่แน่ใจก่อนที่นายไมค์ จะใช้โดรนบินถ่ายภาพไว้ได้
ขณะนี้ได้มอบหมายให้ประมงจังหวัด ประสานไปยังหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ ในการจับจระเข้มาร่วมเตรียมมาตรการเฝ้าระวัง และสำรวจพื้นที่ว่าจระเข้จะเข้าไปหลบหรืออาศัย ซึ่งจากข้อมูลภาพถ่ายที่พบทางประมงจังหวัดยืนยันว่าเป็นจระเข้น้ำจืด และในละแวกใกล้เคียงบริเวณที่พบไม่ได้เป็นที่อยู่อาศัยของจระเข้น้ำเค็ม จึงต้องมีการตั้งทีมตรวจสอบติดตามตัวจระเข้ตัวนี้
ทช.จี้กรมประมงตรวจ -จัดชุดค้นหา
ด้านนายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะลและชายฝั่ง หรือทช.บอกว่า ได้รับข่าวนี้ ได้สั่งการให้ทางนักวิชาการจาก ทช.นำเรือร่วมออกค้นหาจระเข้ตัวนี้ และอาจจำเป็นต้องไล่ล่าหาได้ให้ เพราะเมืองท่องเที่ยว เบื้องต้นมีข้อสันนิษฐานว่าไม่น่าจะเป็นจระเข้น้ำเค็ม เพราะไม่มีรายงานการพบเจอตัวจระเข้น้ำเค็มมานานหลายปีแล้ว แต่หากเป็นจระเข้น้ำจืด ซึ่งมันอาจจะปรับตัวได้ แต่ต้องถามต่อว่ามันมาจากไหน เป็นหน้าที่ที่กรมประมง จะต้องไปตรวจสอบแหล่งที่มาว่าฟราร์มที่ขึ้นทะเบียนไว้ว่ามีจระเข้ขนาดใหญ่หลุดหรือหายไปหรือไม่ แต่ทช.พร้อมให้ความช่วยเหลือในการติดตามค้นหาตัวจระเข้ตัวนี้ เพื่อจะได้คลายขอสงสัยส่วนหนึ่งว่าเป็นจระเข้พันธุ์น้ำจืด หรือน้ำเค็ม
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า มีข่าวเรื่องจระเข้น้ำเค็มที่หาดบางเทา ภูเก็ต ชาวต่างชาติชื่อคุณไมค์ไปเดินเล่นแล้ว สังเกตเห็น จึงวิ่งกลับมาบ้านแล้วเรียกลูกชายเอาโดรนไปถ่ายภาพไว้ คลิปที่เห็นชัดเจนมากครับว่าเป็นจระเข้ขนาดใหญ่ ความยาวน่าจะถึง 3 เมตร กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เมื่อปี 56 ก็มีรายงานว่าชาวบ้านเคยเห็นที่หาดไม้ขาว ภูเก็ต จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป
ก่อนที่จะถามว่าเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า ? เรามาดูที่มาของจระเข้ก่อน จระเข้น้ำเค็มเป็นจระเข้ใหญ่ที่สุดในโลก แพร่กระจายในเขตอินโด-แปซิฟิก ตั้งแต่อ่าวเบงกอล หมู่เกาะอันดามัน เขตอาเซียนทั้งหมด ไปจนถึงตอนเหนือออสเตรเลีย ตัวใหญ่ที่สุดยาวเกิน 6 เมตร ขนาดที่พบ 3 เมตร ถือเป็นเรื่องปกติจระเข้ น้ำเค็มเคยพบในฝั่งอันดามัน มีหัวกะโหลกเป็นหลักฐานที่เกาะตะรุเตา ใครเคยไปคลองพันเตมะละกา คงจำได้ว่าข้างในมี "ถ้ำจระเข้"
แล้วเป็นไปได้ไหมที่จะมีจระเข้ตามธรรมชาติเหลืออยู่ตั้งแต่สมัยนั้นยันตอนนี้ โอกาสมีน้อยมากครับ
แต่แน่นอนว่า ยังพอมีจระเข้น้ำเค็มอยู่แถบนี้บ้าง อาจเป็นในพม่า ในสุมาตรา แต่โอกาสที่จะมาถึงภูเก็ต เป็นไปได้แต่ยากนิด อีกแหล่งอาจเป็นจระเข้หลุดจากฟาร์มหรือแหล่งที่เลี้ยงอื่นๆ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งน้ำจืด ลูกผสม และน้ำเค็ม
ดร.ธรณ์ แนะนำจับเป็นพิสูจน์สายพันธุ์และจัดการถูกวิธี
ทีมข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ สอบถามดร.ธรณ์ ระบุว่า ถ้าดูจากภาพถ่ายอาจยังไม่ชัดเจนหรือเทียบได้ว่าเป็นจระเข้าน้ำจืด หรือน้ำเค็ม ซึ่งมีความแตกต่างกันตรงท้ายทอย และตีนของจระเข้ เบื้องต้นมีคำแนะนำว่ามีความจำเป็นว่าควรจะตามจับให้ได้ตัวเป็นๆ ห้ามฆ่าอย่างเด็ดขาด เนื่องจากหาดบางเทา เป็นชายหาดท่องเที่ยว และหากจับได้แล้วจะต้องนำมาพิสูจน์สายพันธุ์หากพบว่าเป็นจระน้ำจืด ก็ต้องตรวจสอบว่ามันหลุดมาได้อย่างไร รวมทั้งมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นจระเข้ลูกผสม ซึ่งก็มีความน่าจะเป็นว่าอาจหลุดมาเช่นกัน แต่หากเป็นจระเข้น้ำเค็ม ต้องจัดการต่อว่าจะนำไปปล่อยหรือในถิ่นอาศัยที่ไหน เพราะในขณะนี้เท่าที่ทราบจระเข้น้ำเค็ม ที่ยังพบได้ในธรรมชาติยังมีในเขตทะเลอันดามันพม่า-สุมาตรา ซึ่งอยู่ห่างจากภูเก็ตประมาณ 400 กิโลเมตร มันคงไม่สามารถว่ายน้ำมาไกลถึงที่นี่
" ผมคิดว่าจะเป็นน้ำจืด หรือน้ำเค็ม ตอนนี้มีคำถามว่าจะจัดการอย่างไร ถึงจะจับตัวมันได้เพราะเรื่องจระเข้ที่คลองลายัน ทะเลภูเก็ต นักตกปลาเคยบอกมาตลอด แต่ไม่มีภาพถ่ายเป็นหลักฐานยืนยัน ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสว่าทางจังหวัดจะแก้ปัญหาอย่างไร หากได้ตัวจระเข้มาต้องพิสูจน์ให้ได้ชัดเจน ถ้าเป็นจระเข้น้ำจืด หรือลูกผสม แสดงว่ามันต้องหลุดมาจากที่ใดที่หนึ่ง" ดร.ธรณ์ ระบุ