นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล โดยอาจยืดเวลาการจ่ายเงินค่าประมูลออกไปอีก 9 เดือน ซึ่งจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ที่เปลี่ยนแปลงไปสู่ช่องทางดิจิทัล ทำให้ผู้ประกอบการประสบปัญหามากยิ่งขึ้น เพราะการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลลงทุนสูง ขณะที่เม็ดเงินโฆษณามีจำกัด
สำหรับสัดส่วนช่องทีวีดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย ควรมีประมาณ 15-16 ช่อง ซึ่งปัจจุบันมีมากถึง 24 ช่อง และยังถูกแย่งตลาดจากสื่อดิจิทัลออนไลน์อื่นๆ ทำให้สื่อโทรทัศน์ต้องเร่งปรับตัวโดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย ขณะนี้มีอิทธิพลต่อการรับชมรายการอย่างมาก
กสทช.อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการยกร่างหลักเกณฑ์ เพื่อกำกับดูแลรายการโทรทัศน์ผ่านสื่อออนไลน์ หรือ โอทีที ที่ขยายตัวอย่างมาก โดยในวันที่ 11-12 ก.ย.2560 จะมีการประชุมระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการการรับชมรายการโทรทัศน์และวิทยุผ่านสื่อออนไลน์ร่วมกัน
นอกจากนี้ กสทช.กำลังพิจารณาเสนอทางออกให้กับธุรกิจทีวีดิจิทัล เพราะต้องยอมรับว่าจำนวนช่องที่มีอยู่มากเกินไป ที่ผ่านมาผู้ประกอบการเสนอขอคืนใบอนุญาตโดยไม่ต้องชำระเงินส่วนที่เหลือ ซึ่งจากการศึกษากฎหมายแล้วไม่สามารถทำได้ หากจะดำเนินการลักษณะนี้จะต้องแก้กฎหมาย โดยเสนอให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ดำเนินการ
ส่วนกรณีกลุ่มเบียร์ช้างของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เข้าถือหุ้นในบริษัทผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล 2 ราย ได้แก่ กลุ่มอมรินทร์ทีวีและจีเอ็มเอ็ม เลขาธิการ กสทช. ระบุว่า สามารถดำเนินการได้เพราะเป็นเพียงการเข้ามาถือหุ้นไม่ได้เปลี่ยนมือ และไม่เข้าข่ายเกณฑ์อำนาจเหนือตลาด