วันนี้ (8 ก.ย.2560) นางสาวจริยาภรณ์ บัวใหญ่ หรือ น้ำมนต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีลักทรัพย์ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม หลังจากถูกจับได้เมื่อคืนที่ผ่านมา ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งตำรวจได้ใช้หมายจับคดีลักทรัพย์ของสถานีตำรวจภูธรประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ที่มีผู้เสียหายเคยถูกหลอกแต่งงานไปแจ้งความไว้ และใช้บ้านพักใน จ.ปทุมธานี เป็นเรือนหอ
นางสาวจริยาภรณ์ขโมยโทรทัศน์ 32 นิ้ว เครื่องซักผ้าและเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน รวมมูลค่าประมาณ 70,000 บาท แล้วหลบหนีไป ซึ่งตำรวจได้ยึดของกลางมาได้บางส่วน
สำหรับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ เป็นของผู้เสียหายอีกคนหนึ่งที่นางสาวจริยาภรณ์หลอกให้มาแต่งงานด้วย แล้วขอรถคันนี้โดยอ้างว่าจะนำไปขนของ ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้
ตำรวจชุดสืบสวนพบความเคลื่อนไหวของนางสาวจริยาภรณ์ หลบหนีอยู่ใน ต.กระทุ้มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม พร้อมกับสามีอีกหนึ่งคน จึงได้ไปควบคุมตัวมาสอบสวน
นอกจากนี้ นางสาวจริยาภรณ์ยังได้ขโมยบัตรประชาชนของเพื่อนหญิงคนหนึ่ง เพื่อนำไปเปิดบัญชีเงินฝาก และจะให้โอนเงินที่อ้างว่าจะนำไปทำธุรกิจ หรือ เงินสินสอดมาให้ ล่าสุดมีผู้ชายมาแจ้งความว่าถูกหลอกในลักษณะดังกล่าวแล้ว 14 คน มูลค่าความเสียหายมากกว่า 5 ล้านบาท
เบื้องต้นนางสาวจริยาภรณ์อ้างว่า ไม่มีเจตนาที่จะหลอกฝ่ายชายมาแต่งงาน
สำหรับคดีนี้ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติของนางสาวจริยาภรณ์ พบว่ามีหมายจับในคดีฉ้อโกง นอกเหนือจากที่ฉ้อโกงในลักษณะหลอกแต่งงานกับผู้ชายอีกหลายหมายที่สถานีตำรวจหลายแห่ง
นายสงกานต์ อัจริยะทรัพย์ ทนายความ ยืนยันว่านางสาวจริยาภรณ์มีพฤติกรรมฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นและมีความผิดชัดเจน ถึงแม้ว่าจะตามกฎหมายจะบอกว่าทรัพย์สิน หรือสินสอดที่ได้มาระหว่างสมรสจะตกเป็นของบิดามารดาและฝ่ายหญิงก็ตาม แต่เจตนาของนางสาวจริยาภรณ์ มีพฤติกรรมฉ้อโกงอย่างชัดเจน ไม่ได้ยินยอมตกลงเป็นภรรยาจึงถือว่าเป็นการกระทำผิด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จับ “น้ำมนต์” เจ้าสาวหลอกเจ้าบ่าว 13 คนแต่งงานได้แล้ว
13 ผู้เสียหายแจ้งความสาวอ้างท้องหลอกแต่งงาน สูญเงินนับแสน
ตำรวจเร่งติดตามตัวสาวหลอกแต่งงานแล้วเชิดสินสอดหลบหนีไป