ตำรวจปราบปรามยาเสพติดนำกำลังเข้าบุกค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านย่าน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังพบเป็นที่หลบซ่อนตัวของผู้ต้องหาที่ร่วมกันค้ายาเสพติดระดับสั่งการ หลังเข้าตรวจค้นในบ้าน ก็พบนายจิรัฎฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ หรือ เอกอ้วน พักอยู่กับครอบครัว ตำรวจจึงอ่านหมายจับของศาลอาญาในข้อหาร่วมกันสมคบกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และจับกุมทันที
การค้นในบ้านยังพบตู้เซฟขนาดใหญ่อยู่บนชั้นสอง ตำรวจจึงนำลงมาให้ผู้ต้องหาเปิดเพื่อตรวจสอบสิ่งของภายในตู้เซฟ จึงพบเงินสดอยู่ในถุงและกล่องกระดาษเกือบ 7 ล้านบาท ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ น้ำหนักกว่า 20 บาท โฉนดที่ดินรวมกว่า 13 ไร่ และนาฬิกากระเป๋าแบรนด์เนมอีกหลายชิ้น และยังมีรถยนต์หรูอีก 2 คันจอดอยู่หน้าบ้าน ซึ่งมูลค่าทรัพย์สินของผู้ต้องหาและเครือข่ายประเมินแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
พล.ต.ท.สมหมาย กองสิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคนนี้ อยู่ในระดับสั่งการให้ลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคเหนือส่งให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนส่งไปภาคใต้ และเคยต้องโทษในคดีร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดเมื่อปี 2547 ก่อนที่จะศาลฎีกาจะยกฟ้องในปี 2555 จากนั้นก็ยังพบว่าผู้ต้องหาหันกลับมาค้ายาเสพติดอีก
เครือข่ายของนายเอกอ้วน ตำรวจขยายผลจากการจับผู้ต้องหาที่ลำเลียงยาบ้า 1 ล้านเม็ด และไอซ์ 400 กิโลกรัม จนพบความเชื่อมโยงถึงตัวผู้ต้องหาว่าเป็นผู้สั่งการ โดยใช้โทรศัพท์มือถือที่ซิมการ์ดจะลงทะเบียนโดยคนในประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นจะเป็นผู้สั่งการให้โอนเงินผ่านทางมือถือ และจัดชุดลำเลียงยาเสพติดจนถึงปลายทาง ซึ่งปัจจุบันผู้ต้องหาเริ่มพัฒนาวิธีการที่จะเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา ปฏิบัติการชัยยะ สยบไพรี 60/6 ตำรวจเข้าตรวจค้นรวม 43 จุด ทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งคนไทย และคนต่างด้าว ที่มีความเชื่อมโยงกันในเรื่องธุรกรรมทางการเงินอย่างชัดเจน