วันนี้ (19 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.00 น. กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ระบุว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุทกซูรีตั้งแต่วันที่ 15-18 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 12 จังหวัด ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ 5 จังหวัด ในพื้นที่ 19 อำเภอ ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ จ.ชัยภูมิ จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.สตูล
จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคเหนือยังคงมีฝนตกชุกกับฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนลดลง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกชุกหนาแน่นและฝนตกหนักถึงหนักมาบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 20-24 ก.ย.นี้ ร่องมรสุมกำลังแรงจะเคลื่อนลงไปยังภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออก ประกอบกับมรสุมที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัยได้แจ้งเตือนให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำหลาก การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ําหลากในแม่น้ำยมจากอิทธิพลของพายุทกซูรี ทั้งที่ จ.แพร่ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ โดยให้เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและประเมินสถานการณ์ระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น หากมีสถานการณ์บ่งชี้ว่าระดับน้ำมีโอกาสจะล้นตลิ่งให้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ริมน้ำให้ขนของขึ้นที่สูงและอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ คาดการณ์ว่าวันที่ 15 ต.ค.นี้ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะเริ่มอ่อนกำลังลงและลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดปกคลุมประเทศไทยแทน ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว ทำให้ปริมาณฝนลดลงอย่างต่อเนื่องและมีมวลอากาศเย็นปกคลุมประเทศไทย โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้มีฝนชุก โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก