วันนี้ (1 ต.ค.2560) พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีประชาชนร้องเรียนผ่าน call center ว่ามีการขายสลากเกินราคาในหลายพื้นที่โดยจำนวนผู้ร้องเรียนเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น ประมาณ 500 คน และเดือน ส.ค.ประมาณ 800 คน จากปกติเฉลี่ยเดือนละ 100 คน
นอกจากนี้ ยังพบว่าการจำหน่ายสลากฉบับเดี่ยวมีปริมาณลดลงแต่สลากรวมชุดเพิ่มมากขึ้นและวางจำหน่ายได้เร็วขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสลากรวมชุด 5 ใบ เป็นไปตามความต้องการของผู้ซื้อที่ต้องการถูกรางวัลครั้งละมากๆ จึงทำให้เกิดนายทุนรวมชุดขายฉวยโอกาสเพิ่มจำนวนและขนาดสลากชุดเข้าตลาด และยังมีตัวแทนจำหน่ายนำสลากขายช่วงต่อโดยไม่ขายเอง
ดังนั้นจึงออกมาตรการระยะสั้นเลื่อนวันรับสลากฯทั้งระบบโดยให้ผู้ค้าที่ได้รับจัดสรรโควต้ารับสลากช้าออกไป 2 วันจากกำหนดคือ ก่อนออกสลาก วันออกสลาก และหลังออกสลาก และยังเลื่อนเวลาเปิด - ปิดระบบ เพื่อให้รวมชุดสลากช้าลงพร้อมประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตำรวจ ทหาร ให้ตรวจสอบการจำหน่ายเกินราคาอย่างเข้มงวด เพื่อตัดโควต้าสลากผู้ขายที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและสัญญาออกจากระบบการจำหน่ายสลากฯ ล่าสุดได้ตัดโควต้าสลากตัวแทนจำหน่ายแล้ว 2,404 คน และยกเลิกสัญญาในโครงการซื้อจองสลาก จำนวน 532 คน
ส่วนการเปิดประชาพิจารณ์ร่างกฎหมายสำนักงานสลากฯ เมื่อวันที่ 1- 15 ก.ย.ที่ผ่าน มีผู้แสดงความคิดเห็น ผ่านเว็บไซต์สำนักงานสลากฯ จำนวน 525 ราย ส่วนเว็บไซต์กระทรวงดิจิทัล ฯ มีผู้เข้าไปอ่านแต่ไม่แสดงความเห็น 140 ราย และมีเอกสารแสดงความคิดเห็นจากหน่วยงานภาคเอกชน ภาคประชาสังคม 6 ราย และเอกสารจากหน่วยงานของภาครัฐและอื่น ๆ 5 ราย ซึ่งขณะนี้ได้ขยายการทำประชาพิจารณ์ออกไปอีก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-15 ต.ค. 2560 เพื่อให้ได้กฎหมายสอดคล้องกับปัจจุบันมากที่สุด